โรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิส (Infectious mononucleosis)

โรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิสเป็นโรคติดเชื้อไวรัสกึ่งเฉียบพลัน ทำให้เกิดอาการนานเกิน 10 วัน ต่างจากไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเฉียบพลันทั้งหลายที่ทำให้ป่วยนานเพียง 1 สัปดาห์ สาเหตุเกิดจากเชื้อเอพสไตน์บาร์ไวรัส (Epstein-Barr virus หรือ EBV) ติดต่อโดยการสัมผัสกับน้ำลายของผู้ที่มีเชื้ออย่างใกล้ชิดมาก เช่น การจูบ ผู้ที่ได้รับเชื้อเอพสไตน์บาร์ไวรัสส่วนมากไม่แสดงอาการ จึงไม่ทราบว่าตนเองเป็นแหล่งแพร่เชื้อ

อาการของโรค

ผู้โรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิสจะเริ่มแสดงอาการหลังได้รับเชื้อเข้าไปนาน 1-2 เดือน ส่วนใหญ่จะจำไม่ได้ว่าได้รับเชื้อมาจากใคร อาการจะค่อย ๆ เกิดเป็นลำดับ เริ่มจากมีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลียอย่างมาก บางรายจะมีผื่นจาง ๆ ตามตัวใน 1-3 วันแรก ต่อมาจะเริ่มเจ็บคอ ทอนซิลโต คลื่นไส้ เบื่ออาหาร บางรายมีจุดแดงที่เพดานปาก บางรายมีอาการปวดข้อด้วย อาการเจ็บคอที่มีทอนซิลโตด้วยอาจหลงนึกไปว่าเป็นทอนซิลอักเสบ และกินยาปฏิชีวนะรักษา

ลักษณะที่สำคัญที่ช่วยในการวินิจฉัยโรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิสคือต่อมน้ำเหลืองและม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองที่หลังคอและที่รักแร้จะเริ่มคลำได้ตั้งแต่ปลายสัปดาห์แรก ไม่เจ็บ ส่วนม้ามจะเริ่มคลำได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่สองเป็นต้นไป ผู้ป่วยร้อยละ 5-10 มีอาการตับโตและเหลืองด้วย

รายที่มีอาการรุนแรงอาจมีภาวะแทรกซ้อนของระบบต่าง ๆ เช่น สมองอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ปอดอักเสบ ม้ามแตก ไตอักเสบ เป็นต้น

การวินิจฉัย

เกณฑ์ในการวินิจฉัยโรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิสประกอบด้วย 3 อย่าง คือ

  1. ลักษณะเฉพาะทางคลีนิกของโรค 5 อย่างคือ มีไข้ อ่อนเพลียมาก เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต และม้ามโต
  2. ลักษณะเฉพาะทางโลหิตวิทยา คือ มีจำนวนลิมโฟไซต์ในเลือดมากกว่าร้อยละ 50 และอยู่นานอย่างน้อยสองสัปดาห์ และเป็น Downey cells (atypical lymphocyte) มากกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนเม็ดเลือดขาว
  3. ลักษณะเฉพาะทางซีโรโลยี่ คือ ตรวจพบ heterophil antibody ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ 1-8 ของโรค

การวินิจฉัยแยกโรค

ลักษณะของคออักเสบและทอนซิลโตของโรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิสต้องแยกจากโรคคอตีบ โรคคอและทอนซิลอักเสบจากเชื้อ Streptococcus และโรคคออักเสบจากไวรัสชนิดอื่น โดยอาการเจ็บคอของโรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิสจะเป็น ไม่มากแต่อยู่นาน เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งถ้าเป็นจากไวรัสชนิดอื่นอาการจะหายไปแล้ว ไวรัสอื่นมักทำให้เกิดอาการเสียงแหบด้วยขณะที่โรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิสไม่ทำให้เสียงแหบ ส่วนอาการเจ็บคอที่เกิดจากเชื้อ Streptococcus และโรคคอตีบนั้นจะ เป็นมากแต่ไม่นาน ไข้จะสูง เจ็บคอมากเวลากลืน ถ้าในระยะแรกมีอาการหนักต้องเพาะเชื้อในคอดูทั้ง Streptococcus และ Diphtheria ในโรคคอตีบเยื่อที่ฉาบที่คอหอยมักมีสีเทาอมเขียว แต่สำหรับโรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิส ถ้ามีมักเป็นสีขาว

อาการไข้ที่เป็นนาน ๆ ต่อมน้ำเหลืองโต ม้ามโต ตับอักเสบ และลิมโฟไซต์ในเลือดสูงของโรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิส ต้องแยกจากโรคติดเชื้อไซโตเมกะโลไวรัสและโรคท็อกโซพล้าสโมสิส โรคติดเชื้อไซโตเมกะโลไวรัสจะไม่มีอาการเจ็บคอ โรคท็อกโซพล้าสโมสิสพบอาการทางสมองได้บ่อย และทั้งสองโรคไม่พบ heterophil antibody

ความผิดปกติในเลือดที่มีโมโนนิวเคลียร์เซลล์เป็นจำนวนมากต้องแยกจากโรคมะเร็งของเม็ดเลือดขาว และในรายที่มีตับอักเสบ ต้องแยกจากโรคไวรัสตับอักเสบชนิดต่าง ๆ ด้วย

การรักษา

โรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอสิสเป็นโรคที่ไม่รุนแรง มักหายได้เองใน 2-4 สัปดาห์ ยังไม่มียาฆ่าไวรัสชนิดนี้ การรักษาคือให้นอนพัก ให้ยาลดไข้ ยาแก้ปวด รักษาความสะอาดในช่องปาก กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ ในรายที่ม้ามโตไม่ควรออกกำลังกายหนัก เพราะม้ามอาจแตกได้ หากเพาะเชื้อในคอพบการติดเชื้อ β-hemolytic streptococcus ร่วมด้วยต้องให้ยาปฏิชีวนะด้วย ยาสเตียรอยด์จะใช้ในรายที่เกิดภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท, คอบวมมากจนหายใจลำบาก, มีเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ, หรือมีการแตกทำลายของเม็ดเลือดแดงรุนแรง ซึ่งจะใช้ขนาดสูงเพียงช่วงสั้น ๆ 2-3 วัน แล้วลดขนาดลง แต่ให้ต่อไปอีก 1 สัปดาห์

การป้องกัน

ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้