โรคอุจจาระร่วงจากโปรโตซัวอื่น

มีโปรโตซัวอื่น ๆ อีกหลายชนิดที่ทำให้เกิดโรคในทางเดินอาหาร ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง และบางชนิดก็หายเองได้ จะขอกล่าวไว้ที่นี้เพียงสังเขป

โรคบาแลนติดิเอสิส (Balantidiasis)

โรคนี้เกิดจากโปรโตซัวชื่อ Balantidium coli มีชีวิตอยู่ในน้ำได้อย่างอิสระในรูปของซิสต์ที่มี food vacuole อันใหญ่อยู่ภายใน เชื้อนี้พบได้ในสัตว์หลายชนิดโดยไม่ได้ทำให้เกิดอาการ หมูเป็นแหล่งของเชื้อที่มีความสำคัญต่อคน ประมาณร้อยละ 25 ของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มีประวัติว่าได้สัมผัสกับหมู เมื่อคนได้รับซิสต์ของเชื้อนี้เข้าทางปาก มีเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่จะแสดงอาการป่วย ส่วนใหญ่เป็นอาการท้องเดินเรื้อรัง และขาดสารอาหาร

วินิจฉัยโรคโดยการตรวจพบตัวโทรโฟซ้อยท์ในอุจจาระสด การรักษาด้วยยาได้ผลดี แต่ต้องทำร่วมกับการควบคุมแหล่งของเชื้อในสัตว์ และพัฒนาสุขอนามัยพื้นฐานของชุมชน

โรคไอโซสปอริเอสิส (Isosporiasis)

โรคนี้เกิดจากโปรโตซัวในจีนัส Isospora อาศัยอยู่ในลำไส้เล็กของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น คน สุนัข หมู ส่วนใหญ่ไม่ทำให้เกิดอาการอะไร คนติดโรคนี้โดยการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่มีโอโอซิสต์นี้เข้าไป เชื้อจะแบ่งตัวอยู่ในผนังลำไส้เล็กส่วนต้น ทำให้มีอีโอสิโนฟิลอยู้ในผนังลำไส้เป็นจำนวนมาก โรคนี้เป็นสาเหตุของโรค Eosinophilic enteritis โรคหนึ่ง

ส่วนน้อยของผู้ติดเชื้อจะแสดงอาการหลังได้รับเชื้อเข้าไปแล้วประมาณ 7 วัน โดยจะมีอาการท้องเดิน คลื่นไส้ ปวดท้อง เบื่ออาหาร อาจมีอาการไข้ แต่ไม่รุนแรง เพียงไม่กี่วันก็หายไปเอง มีบางรายเท่านั้นที่เป็นเรื้อรังเป็นปี ๆ

วินิจฉัยโรคได้โดยการตรวจพบโอโอซิสต์ในอุจจาระหรือน้ำที่ดูดออกมาจากลำไส้เล็กส่วนต้น ยาที่ใช้รักษาต้องรับประทานติดต่อกันนาน 3-4 สัปดาห์ ทางที่ดีควรป้องกันไม่ให้ติดโรคด้วยการกินอาหารที่สุก สะอาด ก่อนรับประทานควรล้างมือให้สะอาด ไม่ควรนำอุจจาระสดมาทำปุ๋ย รวมทั้งการสร้างส้วมให้ถูกสุขลักษณะ

โรคคริพโตสปอริดิโอสิส (Cryptosporidiosis)

เป็นโรคที่เกิดจากโปรโตซัวในจีนัส Cryptosporidium ทำให้เกิดอาการท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ในคนที่ระบบภูมิคุ้มกันปกติมักหายได้เอง

การวินิจฉัยต้องย้อมสีอุจจาระด้วยวิธี modified acid fast เพื่อหาโอโอซิสต์ที่ติดสีแดง หรือโดยการตัดชิ้นเนื้อของลำไส้มาตรวจทางพยาธิวิทยา

โรคนี้รักษาไม่ค่อยหายขาดในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะเชื้อมักดื้อยา

โรคซาร์โคซิ้สโตสิส (Sarcocystosis)

เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อในจีนัส Sarcocystis มีโฮ้สต์ 2 ชนิด โฮ้สต์กลาง (intermediate host) ได้แก่ วัว ควาย แพะ แกะ คน โฮ้สต์เฉพาะ (definitive host) ได้แก่ คน สุนัข แมว จะเห็นว่าคนเป็นทั้งโฮ้สต์กลางและโฮ้สต์เฉพาะ

ในโฮสต์กลาง เชื้อจะอยู่ในรูปของซูโดซิสต์ภายในกล้ามเนื้อหรือเนื้อสมอง เมื่อคนกินเนื้อวัว เนื้อควายดิบ ที่มีซูโดซิสต์ของเชื้อนี้เข้าไป ก็จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเดิน อาการจะเป็นประมาณ 1-2 วันก็จะหายไปเอง แต่หากได้รับเชื้อติดต่อกันอยู่เรื่อย ๆ เชื้ออาจเข้าไปอยู่ตามกล้ามเนื้อ ทำให้มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ผิวหนังบวม และกล้ามเนื้ออ่อนแรง

วินิจฉัยโรคจากประวัติกินเนื้อสุก ๆ ดิบ ๆ ตรวจอุจจาระพบโอโอซิสต์ หรือตัดชิ้นเนื้อของกล้ามเนื้อมาตรวจพบซูโดซิสต์ อาการท้องเดินไม่ต้องรักษา เพราะหายได้เอง แต่ถ้าเป็นที่กล้ามเนื้อ ต้องใช้วิธีผ่าตัดเอาออก

โรคบล๊าสโตซิ้สโตสิส (Blastocystosis)

เป็นโรคที่เกิดจากโปรโตซัวในจีนัส Blastocystis ซึ่งปกติไม่ทำให้เกิดอาการอะไร คนติดโรคโดยการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนซิสต์ของเชื้อนี้เข้าไป บางรายอาจมีอาการท้องเดินเพียงเล็กน้อย