โรคทริโฆโมนิเอสิส (Trichomoniasis)

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ชนิดหนึ่ง เกิดจากเชื้อ Trichomonas vaginalis เป็นโปรโตซัวมีหางที่พบได้มากที่สุดในโลก โดยพบในช่องคลอดของหญิงที่ปกติแข็งแรงดี ไม่มีอาการอะไรได้ถึงร้อยละ 5-10 และพบในช่องคลอดของหญิงบริการได้ถึงร้อยละ 50-70 เชื้อนี้มีเฉพาะระยะโทรโฟซ้อยท์ คนเป็นโฮ้สต์หนึ่งเดียวของ T. vaginalis

อาการของโรค

  • ในเพศหญิง อาการเป็นได้ตั้งแต่ไม่มีอาการอะไรเลย ไปจนถึงมีการอักเสบของช่องคลอดอย่างรุนแรง ประมาณร้อยละ 50 จะมีอาการตกขาวเฉียบพลัน สีของตกขาวเป็นสีเหลืองอมเขียว ต่างจากการติดเชื้อราที่มีสีขาวขุ่นและจับเป็นก้อน และต่างจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีสีขาวออกเทา อาจมีอาการคันช่องคลอดด้วย อาการปวดท้องและปวดเวลาถ่ายปัสสาวะพบได้ไม่ถึงร้อยละ 20 ถ้าเป็นเรื้อรัง ช่องคลอดและปากมดลูกจะมีสีแดงและมีจุดเลือดออก
  • ในเพศชาย ร้อยละ 70 จะไม่มีอาการอะไรเลย แต่ยังคงตรวจพบเชื้อนี้ในท่อปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธุ์ไปแล้วนานถึง 2 สัปดาห์ ในรายที่มีอาการ จะมีอาการปวดเวลาถ่ายปัสสาวะ อาจมีน้ำสีเหลืองขุ่นซึมได้ ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้คือการอักเสบของต่อมลูกหมากและท่อนำอสุจิ หรืออาจไปถึงการอักเสบของหนังหุ้มปลายองคชาติ

การวินิจฉัย

ในผู้ป่วยที่มีอาการอาจใช้วิธีตรวจหาเชื้อ T. vaginalis จากช่องคลอดในเพศหญิง หรือท่อปัสสาวะในเพศชาย ในผู้ที่ไม่มีอาการ การเพาะเชื้อจากตกขาวเป็นวิธีวินิจฉัยผู้ที่เป็นพาหะได้ดีที่สุด

การรักษา

กลุ่มยาที่ใช้รักษาโรคทริโฆโมนิเอสิสคือ 5-Nitroimidazoles โดยยายับยั้งการขดเกลียวของ DNA และระงับการสร้างกรดนิวคลิอิกของเชื้อ ทำให้เชื้อตายไปในที่สุด แต่การรักษาจะได้ผลดีต้องรักษาทั้งคู่นอนด้วย มิฉะนั้นโรคจะเป็นซ้ำใหม่ ขนาดยาที่ใช้คือ

ในระหว่างที่ใช้ยานี้ห้ามดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ จนกระทั่งหยุดยาแล้ว 72 ชั่วโมง

หญิงที่ติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์แต่ไม่มีอาการควรเลื่อนไปรับประทานยาหลังคลอด เพราะยาทำให้เกิดความพิการในตัวอ่อนของสัตว์ (แม้จะไม่พบความพิการในตัวอ่อนของคน) หากอยู่ในระหว่างการให้นมบุตรควรหยุดให้นมในระหว่างที่รักษาจนหลังเสร็จสิ้นการรักษาแล้ว 72 ชั่วโมง

การใช้ยาเหน็บหรือยาทาได้ผลเพียง 50% และไม่แนะนำให้ใช้ เพราะจะทวีจำนวนเชื้อที่ดื้อต่อยากินให้มากขึ้น (ปัจจุบันยังพบเพียง 10%)