การตรวจสุขภาพทารกวัย 0-6 เดือน
(Early Infant Check-up)
การนัดตรวจสุขภาพเด็กอ่อนหลังคลอดวัยนี้ จะเป็นการสอบถามปัญหาหรือความกังวลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในครอบครัว บทบาทและความรับผิดชอบของพ่อแม่ สัมพันธภาพและเศรษฐานะในครอบครัว คัดกรองภาวะซึมเศร้าหลังคลอดของแม่ ตรวจสอบการเจริญเติบโต พัฒนาการ และพฤติกรรมของเด็ก รวมทั้งตอบถามเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็ก ซึ่งอาจมีความขัดแย้งกันในแต่ละแหล่ง นอกจากนั้นยังเน้นการฉีดวัคซีนตามกำหนด
อายุ 1 เดือน
- ประเมินการเจริญเติบโด โดยชั่งน้ำหนัก วัดความยาว วัดเส้นรอบศีรษะ แล้วบันทึกลงในกราฟ ประเมินตามเกณฑ์อายุและเพศ
- ตรวจร่างกายตามระบบ โดยแพทย์จะฟังเสียงหัวใจ ตรวจตาเพื่อดูการสะท้อนแสงจากจอประสาทตา
(red reflex) ตรวจสอบว่าแก้วตาขุ่นหรือไม่ ตรวจการได้ยินด้วยอุปกรณ์ OAE หรือ automated ABR หากพบความผิดปกติจะส่งต่อแพทย์ด้านโสต ศอ นาสิก เพื่อตรวจยืนยันการวินิจฉัย
- ประเมินสีอุจจาระ เพื่อคัดกรองภาวะท่อน้ำดีตีบตัน (biliary atresia)
- ติดตามพัฒนาการ เด็กวัย 0-1 เดือน ควรทำสิ่งเหล่านี้ได้
- ยกศีรษะและหันเปลี่ยนข้างได้ในท่านอนคว่ำ
- มองตามสิ่งของจากด้านข้างถึงระยะกึ่งกลางลำตัวได้
- แสดงการรับรู้เมื่อได้ยินเสียงพูดระดับปกติ เช่น กระพริบตา สะดุ้ง หรือเคลื่อนไหวร่างกาย
- ทำเสียงอ้อแอ้ได้
- มองหน้าผู้พูดได้อย่างน้อย 1 วินาที
- รับวัคซีน ป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เข็มที่ 2
อายุ 2 เดือน
- ประเมินการเจริญเติบโด โดยชั่งน้ำหนัก วัดความยาว วัดเส้นรอบศีรษะ แล้วบันทึกลงในกราฟ ประเมินตามเกณฑ์อายุและเพศ
- ตรวจร่างกายตามระบบ เช่นเดียวกับเมื่ออายุ 1 เดือน
- ติดตามพัฒนาการ เด็กวัย 1-2 เดือน ควรทำสิ่งเหล่านี้ได้
- ยกศีรษะขึ้นได้ 45 องศา ในท่านอนคว่ำ
- มองตามสิ่งของจากด้านข้าง ผ่านจุดกึ่งกลางลำตัวได้ตลอดโดยไม่หันไปมองทางอื่น
- มองหน้าผู้พูดได้อย่างน้อย 5 วินาที
- ทำเสียงอู/อือ/อา ได้
- ยิ้มตอบ หรือส่งเสียงตอบได้
- รับวัคซีนป้องกัน
- อุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้า ครั้งที่ 1
- วัคซีนผสม DTwP-HB-Hib เข็ม 1 (ป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ไวรัสตับอักเสบบี และปอดอักเสบจากเชื้อ Haemophilus influenzae) หรือ DTaP-HB-IPV-Hib เข็ม 1 (ป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ไวรัสตับอักเสบบี โปลิโอ และปอดอักเสบจากเชื้อ Haemophilus influenzae)
- โรคโปลิโอชนิดกิน ครั้งที่ 1 (หากไม่ได้รับวัคซีนแบบฉีดผสมโปลิโอในข้อ 2
- และวัคซีนทางเลือก คือ ปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอคคัส เข็มที่ 1
อายุ 4 เดือน
- ประเมินการเจริญเติบโด โดยชั่งน้ำหนัก วัดความยาว วัดเส้นรอบศีรษะ แล้วบันทึกลงในกราฟ ประเมินตามเกณฑ์อายุและเพศ
- ตรวจร่างกายตามระบบ เด็กวัยนี้ควรเริ่มตรวจภาวะตาเหล่ (strabismus) ด้วย light reflex, ตรวจ
ข้อสะโพกเพื่อคัดกรองภาวะข้อสะโพกหลุด, ตรวจช่องท้องเพื่อหาความผิดปกติ เช่น ก้อนในช่องท้อง, ตรวจ
อวัยวะเพศโดยเฉพาะภาวะอัณฑะไม่เลื่อนลงถุงอัณฑะและ phimosis ในเด็กผู้ชาย และ labial adhesion
ในเด็กผู้หญิง
- ติดตามพัฒนาการ เด็กวัย 3-4 เดือน ควรทำสิ่งเหล่านี้ได้
- ยกศีรษะและอกโดยใช้แขนยันกับพื้นในท่านอนคว่ำได้
- มองตามสิ่งของได้ 180 องศา
- หันตามเสียงได้ถูกทิศทาง
- ทำเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ เพื่อแสดงความรู้สึกได้
- ยิ้มทักคนที่คุ้นเคย
- รับวัคซีนป้องกัน
- อุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้า ครั้งที่ 2
- วัคซีนผสม DTwP-HB-Hib เข็ม 2 (ป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ไวรัสตับอักเสบบี และปอดอักเสบจากเชื้อ Haemophilus influenzae) หรือ DTaP-HB-IPV-Hib เข็ม 2 (ป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ไวรัสตับอักเสบบี โปลิโอ และปอดอักเสบจากเชื้อ Haemophilus influenzae)
- โรคโปลิโอชนิดกิน ครั้งที่ 2 (หากไม่ได้รับวัคซีนแบบฉีดผสมโปลิโอในข้อ 2
- และวัคซีนทางเลือก คือ ปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอคคัส เข็มที่ 2
อายุ 6 เดือน
- ประเมินการเจริญเติบโด โดยชั่งน้ำหนัก วัดความยาว วัดเส้นรอบศีรษะ แล้วบันทึกลงในกราฟ ประเมินตามเกณฑ์อายุและเพศ
- ตรวจร่างกายตามระบบ เช่นเดียวกับเมื่ออายุ 4 เดือน ตรวจการงอกของฟันน้ำนม
- ติดตามพัฒนาการ เด็กวัย 5-6 เดือน ควรทำสิ่งเหล่านี้ได้
- ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างยันตัวขึ้นจนข้อศอกเหยียดตรง ท้องและหน้าอกต้องยกขึ้นพ้นพื้น
- เอื้อมมือไปหยิบและถือสิ่งของได้
- หันตามเสียงเรียกได้ถูกทิศทาง, แสดงความสนใจเมื่อมีเสียงคนพูดด้วย
- เลียนแบบการเล่นปาก, เล่นเสียง เช่น จุ๊บปาก เป๊าะปากได้
- มองไปที่ของเล่นที่ผู้ทดสอบเล่นกับเด็ก
- รับวัคซีนป้องกัน
- อุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้า ครั้งที่ 3
- วัคซีนผสม DTwP-HB-Hib เข็ม 3 (ป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ไวรัสตับอักเสบบี และปอดอักเสบจากเชื้อ Haemophilus influenzae) หรือ DTaP-HB-IPV-Hib เข็ม 3 (ป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ไวรัสตับอักเสบบี โปลิโอ และปอดอักเสบจากเชื้อ Haemophilus influenzae)
- โรคโปลิโอชนิดกิน ครั้งที่ 3 (หากไม่ได้รับวัคซีนแบบฉีดผสมโปลิโอในข้อ 2
- และวัคซีนทางเลือก คือ ปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอคคัส เข็มที่ 3
อนึ่ง เด็กวัย 0-6 เดือน ควรได้รับการประเมินความเสี่ยงต่อการสัมผัสวัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากแม่ (ซักประวัติ) และตรวจคัดกรองโรคดังกล่าวในเด็กที่มีความเสี่ยง
การเลี้ยงดูที่เหมาะสมและการสร้างวินัยที่ดี
เด็กอ่อนวัยนี้ ผู้ปกครองควรรักและดูแลอย่างใกล้ชิด เฝ้าสังเกตความหมายของกริยาท่าทาง และตอบสนองความต้องการของเด็กอย่างเหมาะสม เรียนรู้ลักษณะเฉพาะตัว ความชอบ ความถนัด พื้นฐานอารมณ์ของลูก ซึ่งจะแตกต่างกันในเด็กแต่ละคน
ให้นมเด็กเท่าที่ต้องการ แนะนำนมแม่อย่างเดียวใน 6 เดือนแรก ดูแลช่องปากโดยใช้ผ้าสะอาดเช็ดเหงือกและกระพุงแก้มวันละ 2 ครั้ง คุณแม่เองก็ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณเพียงพอแก่ตัวเองและลูก และดื่มน้ำมาก ๆ
การนอน: เด็กอายุ 0-3 เดือน ควรนอน 14-17 ชั่วโมง/วัน อายุ 4-6 เดือน ควรนอน 12-16 ชั่วโมง/วัน ช่วงที่ตื่นนอกจากกิน อาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม ควรให้เด็กขยับเคลื่อนไหวหลากหลายรูปแบบ อาจฝึกให้นอนคว่ำอย่างน้อย 30 นาที/วัน บนเตียงที่มีพื้นแข็ง โดยหันศีรษะไปด้านข้าง เพื่อฝึกกล้ามเนื้อในการชันคอ ยกตัวเอง โดยมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการอุ้มกล่อมเด็กจนหลับ ควรวางเด็กลงบนที่นอนเมื่อเด็กเริ่มเคลิ้ม เพื่อส่งเสริมให้เด็กกล่อมตัวเองจนหลับได้ แนะนำให้เด็กนอนหงายหรือนอนตะแคง ไม่ควรนอนคว่ำ ** ไม่ควรมีหมอนหรือตุ๊กตาขนาด
ใหญ่บนที่นอนเด็ก
** ไม่ทิ้งเด็กไว้ตามลำพังบนเตียง โต๊ะ โซฟา เพราะเด็กอาจกลิ้งตกได้ ถ้าจำเป็นต้องวางเด็กบนที่สูงชั่วขณะ เช่น
เพื่อหยิบผ้าอ้อม ผู้ดูแลต้องเอามือข้างหนึ่งวางไว้บนตัวเด็กเสมอ ** ห้ามจับเด็กเขย่า โดยเฉพาะเวลาที่พ่อแม่หงุดหงิดกับการร้องไห้ของเด็ก
การโดยสารรถอย่างปลอดภัยควรใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กทารก โดยติดตั้งที่นั่งที่เบาะหลังของรถ
และหันหน้าเด็กไปทางด้านหลังรถ ** ไม่ทิ้งเด็กไว้ในรถตามลำพัง
วัยนี้ไม่ควรให้เด็กดูโทรทัศน์หรือใช้สื่อผ่านจออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท พ่อแม่พูดคุยกับลูกเพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษา ควรแบ่งเวลามาทำกิจกรรมกับลูก ๆ ทุกคน และเปิดโอกาสให้พี่มีส่วนร่วมในการดูแลน้อง ขณะเดียวกันพ่อแม่ควรมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง
บรรณานุกรม
- กรมการแพทย์. 2565. "แนวทางการตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสมสำหรับประชาชน ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๕." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา สถาบันวิจัยและประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์ (28 กรกฎาคม 2566).