ยาอัลฟูโซซิน (Alfuzosin, Xatral®, Uroxatral®)
อัลฟูโซซินเป็นยาปิดตัวรับอัลฟา-1 ที่พัฒนามาให้ออกฤทธิ์จำเพาะต่อตัวรับอัลฟา-1a ที่ต่อมลูกหมากและท่อปัสสาวะมากขึ้น จึงใช้รักษาภาวะต่อมลูกหมากโตเป็นหลัก แต่ก็ยังมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดและลดความดันโลหิตเหมือนยารุ่นพี่ อัลฟูโซซินจัดอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติของไทย
ที่มาและการออกฤทธิ์:
ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา กลุ่มยาปิดตัวรับอัลฟาได้พัฒนามาอย่างรวดเร็ว จาก non-selective α blockers มาเป็น selective α1 blockers และ selective α1a blockers เพราะตัวรับ α1 ที่ทางเดินปัสสาวะส่วนล่างเป็น α1a subtype เป็นส่วนใหญ่ ยากลุ่มหลังสุดนี้จึงช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณต่อมลูกหมาก ท่อปัสสาวะ และกระเพาะปัสสาวะส่วนล่าง ทำให้ลดอาการเบาขัดจากภาวะต่อมลูกหมากโตได้ดี ส่วนฤทธิ์ลดความดันโลหิตไม่รุนแรงเท่ายากลุ่มแรก ๆ จึงนิยมใช้เป็นยารักษาโรคต่อมลูกหมากโตที่ยังไม่ต้องผ่าตัดหรือยังผ่าตัดไม่ได้ หนึ่งในยากลุ่มหลังนี้คือ ยาอัลฟูโซซิน
อัลฟูโซซินได้รับการพัฒนามาให้อยู่ในรูปที่ออกฤทธิ์นาน (XL = Extended release) ยาถูกดูดซึมจากทางเดินอาหารได้ประมาณร้อยละ 49 ถ้ากินตอนท้องว่างจะดูดซึมได้เพียงร้อยละ 25 ดังนั้นจึงควรกินพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที ยาจับกับโปรตีนในเลือดถึงร้อยละ 90 ส่วนใหญ่ถูกกำจัดที่ตับ แล้วจะถูกขับออกทางน้ำดีปนมากับอุจจาระ ร้อยละ 11 จะถูกขับออกทางปัสสาวะในรูปที่ไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคตับตั้งแต่ Child-Pugh categories B และผู้ป่วยไตวายที่ CrCl < 30 ml/min
การใช้ยาที่เหมาะสม
ยาที่อยู่ในรูป XL ต้องกลืนยาทั้งเม็ด ห้ามบด เคี้ยว เพราะจะทำให้การปลดปล่อยยาและการดูดซึมยาผิดไป
- ใช้บรรเทาอาการเบาขัดจากภาวะต่อมลูกหมากโต
ขนาดยาที่ใช้คือ 10 mg/วัน รับประทานวันละครั้ง พร้อมหรือหลังอาหารมื้อเย็นทันที สำหรับผู้สูงอายุควรระวังภาวะความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนอิริยาบถภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังรับประทานยา
- ใช้รักษาภาวะปัสสาวะคั่งเฉียบพลันที่เกิดจากต่อมลูกหมากโต
โดยใช้ยาร่วมกับการใส่สายสวนปัสสาวะ ขนาดยาที่แนะนำคือ 10 mg/วัน วันละครั้ง หลังอาหาร โดยเริ่มตั้งแต่วันที่สอดสายสวนปัสสาวะ และให้ต่ออีก 1 วันหลังจากเอาสายสวนออกแล้ว
ข้อห้ามใช้
ห้ามใช้ยาอัลฟูโซซินในผู้ป่วยต่อไปนี้
- ไตวายระยะที่ 4-5 (CrCl < 30 ml/min)
- ตับพร่องตั้งแต่ Child-Pugh B เป็นต้นไป
- ใช้ยาในกลุ่มปิดตัวรับอัลฟา-1 ตัวอื่นอยู่
- มีความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนอิริยาบถ (Postural hypotension)
- ผู้ที่แพ้ยาอัลฟูโซซิน หรือส่วนประกอบใด ๆ ของยานี้ (ส่วนประกอบอื่นซึ่งไม่ใช่ตัวยาสำคัญ ได้แก่ Cellulose microcrystalline, Hydrogenated castor oil, Hypromellose, Ethyl cellulose 20, Hydrated colloidal silica, Magnesium stearate, Mannitol, Providone, Ethanol 96%, Yellow ferric oxide (E172))
- มีภาวะลำไส้อุดตัน (เนื่องจากยานี้มีส่วนประกอบของ castor oil)
ผลข้างเคียง พิษของยา และข้อควรระวัง
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคือ ความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนอิริยาบถ (orthostatic/postural hypotension) มักเป็นกับการใช้ยาช่วงแรก โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ใช้ยาลดความดันโลหิตอยู่แล้ว ผู้ป่วยอาจมีอาการวิงเวียน เหนื่อยล้า เหงื่อออก หรือหน้ามืดเป็นลมได้ ถ้าเกิดอาการดังกล่าวควรให้ผู้ป่วยนอนราบจนกว่าอาการทั้งหมดจะบรรเทาลง โดยปกติอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นชั่วคราวในช่วงแรกของการรักษา และไม่เป็นเหตุให้ต้องหยุดการรักษา ที่สำคัญหลังรับประทานยานี้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงไม่ควรขับขี่ยานยนต์หรือทำงานกับเครื่องจักร
ยาอัลฟูโซซินขนาดสูงทำให้เกิดภาวะ QT-prolongation (ในขนาด 10 mg/วัน พบน้อย) แต่ควรระวังในผู้ป่วยที่มีภาวะ QT-prolongation แต่กำเนิด, กำลังมี QT-prolongation, หรือใช้ยาอื่นที่มีผลข้างเคียงของ QT-prolongation ด้วย
ยากลุ่ม Selective α1-blockers อาจทำให้ม่านตาและอวัยวะเพศชายผิดปกติแตกต่างกันในแต่ละคน ที่มีรายงานคือ ภาวะม่านตาอ่อนขณะผ่าตัดตา (Intraoperative Floppy Iris Syndrome, IFIS) จักษุแพทย์ควรต้องทราบก่อนผ่าตัดว่าผู้ป่วยใช้ยากลุ่มนี้อยู่ เพื่อเตรียมเทคนิคการผ่าที่อาจต้องทำเป็นพิเศษ แต่ไม่จำเป็นต้องหยุดยากลุ่มนี้ก่อนผ่าตัดตา, ภาวะอวัยวะเพศชายแข็งตัวเป็นเวลานานหลายชั่วโมงติดต่อกัน (Priapism) หรือภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือแข็งแต่หลั่งอสุจิกลับเข้ากระเพาะปัสสาวะแทน (retrograde ejaculation)
ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่พบได้ คือ ปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน (เพราะยาทำให้กล้ามเนื้อเรียบของทางเดินอาหารบีบตัว) ปวดศีรษะ ง่วงซึม อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว ตับอักเสบ น้ำดีคั่ง
อาการแพ้ยาอัลฟูโซซิน ได้แก่ ลมพิษ ผื่นคัน เยื่อบุจมูกอักเสบ ริมฝีปาก ลิ้น ลำคอ หรือใบหน้ามีอาการบวม
ปฏิกิริยาระหว่างยา
ห้ามใช้อัลฟูโซซินร่วมกับยาในกลุ่ม Selective α1-blockers ตัวอื่น ๆ เช่น Prazosin, Urapidil, Minoxidil เพราะเสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนอิริยาบถรุนแรง ส่วนยาลดความดันโลหิต รวมทั้งยากลุ่มไนเตรท ก็อาจต้องปรับขนาดใหม่เมื่อต้องใช้ยาอัลฟูโซซินเพิ่มมาอีกตัว
การรับประทานยาที่ต้านเอนไซม์ CYP3A4 อย่างแรง เช่น Ketoconazole, Itraconazole, Clarithromycin, Erythromycin, Ritonavir จะทำให้ระดับยาอัลฟูโซซินในเลือดสูงขึ้น จึงอาจทำให้ความดันต่ำลงกว่าปกติ
บรรณานุกรม
- Herbert Lepor. 2006. "The Evolution of Alpha-Blockers for the Treatment of Benign Prostatic Hyperplasia." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Rev Urol. 2006;8(Suppl 4):S3–S9. (31 ตุลาคม 2564).
- Herbert Lepor. 2007. "Alpha-Blockers for the Treatment of Benign Prostatic Hyperplasia." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Rev Urol. 2007;9(4):181-190. (7 พฤศจิกายน 2564).
- "Uroxatral®." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา FDA. (31 ตุลาคม 2564).
- "Alpha-1 blocker." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Wikipedia. (7 พฤศจิกายน 2564).