ฟอสฟอรัส (Phosphorus, P)
ฟอสฟอรัส (P) เป็นธาตุอโลหะที่อยู่ในรูปของแข็งเมื่ออุณหภูมิห้อง และติดไฟได้ง่าย ในธรรมชาติ ฟอสฟอรัสมีหลายสี และมีคุณสมบัติทำปฏิกิริยากับสารอื่นได้ง่าย จึงไม่พบในรูปอิสระแต่จะอยู่ในรูปของสารประกอบ เช่น phytate (phytic acid) ในพืช ซึ่งแม้จะมีโครงสร้างซับซ้อนสวยงาม แต่ดูดซึมได้เพียง 50–70% เนื่องจากมนุษย์ไม่มีเอนไซม์ phytase สำหรับย่อยสลาย
เมื่อเผาฟอสฟอรัสในอากาศ จะได้ phosphorus pentoxide ซึ่งสามารถดูดน้ำกลายเป็นกรดฟอสฟอริก (H3PO4) และเมื่อนำไปทำปฏิกิริยากับด่าง จะได้ฟอสเฟต (PO43-) ที่ละลายน้ำได้ดี ฟอสเฟตมักจับกับแคลเซียม โซเดียม หรือโพแทสเซียมในธรรมชาติ และเป็นเกลือแร่สำคัญที่ร่างกายดูดซึมได้ดี
หน่วยวัดปริมาณฟอสฟอรัส
ในอาหาร: มิลลิกรัม (mg)
ในเลือด: มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ (mg%) หรือ มิลลิโมล/ลิตร (mmol/L), มิลลิอิควิวาเลนต์/ลิตร (mEq/L)
ฟอสฟอรัส 1 mg% = 0.3226 mmol/L
บทบาทของฟอสฟอรัสในร่างกาย
ฟอสฟอรัสในร่างกายประมาณ 85% อยู่ในกระดูกในรูป hydroxyapatite ร่วมกับแคลเซียม ซึ่งมีการสร้างและสลายตลอดเวลาเพื่อควบคุมระดับแคลเซียมในเลือด โดยอาศัยฮอร์โมนพาราไทรอยด์และแคลซิโทนิน
อีก 5% เป็นส่วนประกอบของ:
- เยื่อหุ้มเซลล์ (phospholipids)
- สาย DNA และ RNA (พันธะ phosphodiester)
- โมเลกุลที่ให้พลังงาน เช่น ATP และ creatine phosphate
- สารสื่อกลางภายในเซลล์ เช่น cyclic AMP, inositol triphosphate
- โมเลกุลควบคุมออกซิเจนในเม็ดเลือดแดง เช่น 2,3-DPG
อีก 10% อยู่ในเลือดและภายในเซลล์ ทำหน้าที่ควบคุมการถ่ายทอดยีน การทำงานของเอนไซม์ ฮอร์โมน สมดุลกรด-ด่าง และกระบวนการ phosphorylation
แหล่งอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง
พบมากในเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ถั่ว และผลิตภัณฑ์จากถั่ว มักพบร่วมกับแคลเซียม
กรมอนามัยแนะนำให้บริโภคฟอสฟอรัสวันละ 800 มิลลิกรัม
ในพืช ฟอสฟอรัสอยู่ในรูปไฟเตต ซึ่งดูดซึมได้น้อยกว่าฟอสเฟตในเนื้อสัตว์ การต้มถั่วให้นิ่มจะช่วยให้ดูดซึมได้ดีขึ้น
ฟอสฟอรัสในอาหารสามารถถูกขัดขวางการดูดซึมโดยยา เช่น antacid, sucralfate หรือแคลเซียมคาร์บอเนต โดยแคลเซียมคาร์บอเนต 2,500 mg/วัน จะจับฟอสเฟตได้ 610–1,050 mg [13] ฟอสฟอรัสเหล่านี้จะถูกขับทิ้งทางอุจจาระ ไม่ถูกดูดซึม จึงควรระวังการใช้ยากลุ่มนี้โดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้ขาดฟอสฟอรัสได้
ภาวะขาดฟอสฟอรัส
Hypophosphatemia: ระดับฟอสฟอรัสในเลือด < 2.5 mg% หรือ < 0.81 mmol/L พบไม่บ่อย มักเกิดจากการรับประทานไม่พอ หรือเสียออกทางไต
- ถ้าเกิดจากการรับประทานไม่พอ: ฟอสเฟตในปัสสาวะจะต่ำ
- ถ้าเกิดจากการขับออกทางไต: ฟอสเฟตในปัสสาวะ > 100 mg/วัน
อาการจะเริ่มแสดงเมื่อระดับ < 2.0 mg/dL ได้แก่ เบื่ออาหาร เม็ดเลือดแดงแตก ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง หายใจล้มเหลว ชัก หรือโคม่า หากเป็นเรื้อรังตั้งแต่เด็กจะพบว่าตัวเตี้ย ขาโก่ง กระดูกอ่อน
แนวทางรักษา:
- ดื่มนม (1 ลิตรมีฟอสเฟต ~1 กรัม)
- เสริมด้วยโซเดียมฟอสเฟตหรือโพแทสเซียมฟอสเฟต 1 กรัม วันละ 2 ครั้ง
- หยุดยาลดกรดหรือแคลเซียมเสริมที่ไม่จำเป็น
ระยะเวลาการรักษา 7–10 วัน แล้วระดับฟอสฟอรัสจะกลับมาปกติ
ภาวะฟอสฟอรัสเกิน
Hyperphosphatemia: ระดับฟอสฟอรัสในเลือด > 4.5 mg% หรือ > 1.45 mmol/L มักทำให้เกิดอาการของภาวะแคลเซียมต่ำร่วมด้วย เช่น ตะคริว มือเท้าจีบ ชัก
สาเหตุหลัก:
- ได้รับฟอสฟอรัสมากเกินไป (เช่น ทางหลอดเลือด)
- การขับออกทางไตลดลง (เช่น ไตวาย)
- เซลล์แตก (เช่น เคมีบำบัด, เซลล์มะเร็ง)
- ความผิดปกติทางพันธุกรรมบางชนิด
การวินิจฉัยและแนวทางรักษาอยู่ใน หน้านี้
สรุป
ฟอสฟอรัสเป็นแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูก การผลิตพลังงาน การถ่ายทอดข้อมูลพันธุกรรม การควบคุมกรด-ด่าง และการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย พบมากในเนื้อสัตว์ ถั่ว และผลิตภัณฑ์จากพืชและสัตว์ การดูดซึมจะลดลงหากรับประทานยาลดกรดหรือแคลเซียมเสริมโดยไม่จำเป็น ภาวะขาดหรือเกินฟอสฟอรัสอาจส่งผลต่อระบบเลือด กล้ามเนื้อ หัวใจ และสมองได้ การรักษาควรมุ่งแก้ที่สาเหตุ และเสริมฟอสฟอรัสหากจำเป็น
บรรณานุกรม
- "Phosphorus." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา British Nutrition Foundation. (2 เมษายน 2563).
- "Nutrition Requirements." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา British Nutrition Foundation. (30 มกราคม 2563).
- "Thai RDI." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา กระทรวงสาธารณสุข. (1 กุมภาพันธ์ 2563).
- "Phosphorus." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Oregon State University. (2 เมษายน 2563).
- "Phosphorus." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา NIH. (2 เมษายน 2563).
- "phosphorus." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา whfoods.org. (2 เมษายน 2563).
- "12.3 Phosphorus." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Nutrition Flexbook. (2 เมษายน 2563).
- "- Elements - 30: PHOSPHORUS." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา apjcn.nhri.org.tw. (2 เมษายน 2563).
- "Phosphorus." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Wikipedia. (2 เมษายน 2563).
- "Phosphate." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Wikipedia. (2 เมษายน 2563).
- James L. Lewis, III. 2018. "Overview of Disorders of Phosphate Concentration." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา MSD Manual. (2 เมษายน 2563).
- Daisy Whitbread. 2019. "Top 10 Foods Highest in Phosphorus." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา MYFOODDATA. (2 เมษายน 2563).
- Heaney RP & Nordin BE. 2002. "Calcium effects on phosphorus absorption: implications for the prevention and co-therapy of osteoporosis." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา J Am Coll Nutr 2002;21:239-44. (3 เมษายน 2563).