วัคซีนมาลาเรีย (Malaria Vaccine)
โรคมาลาเรียเป็นโรคติดเชื้อที่รู้จักกันมานาน โดยมีการระบาดบันทึกไว้ตั้งแต่สมัยโรมัน ในปี ค.ศ. 1880 นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Charles Louis Alphonse Laveran ได้ค้นพบว่าโรคนี้เกิดจากปรสิต Plasmodium ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ที่ก่อโรคในคน ได้แก่ P. falciparum, P. vivax, P. malariae, P. ovale และ P. knowlesi โดยมียุงก้นปล่อง (Anopheles) เป็นพาหะนำโรค
ยุงชนิดนี้มักพบในพื้นที่ป่าเขา สวนผลไม้ และสวนยางพารา โดยวางไข่ในแหล่งน้ำขังที่มีร่มเงา การติดเชื้อมาลาเรียไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันถาวรได้ แม้จะติดเชื้อแล้วก็ยังสามารถติดซ้ำได้อีก แต่โดยทั่วไปอาการจะรุนแรงน้อยลง
ในปี ค.ศ. 2009 องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อมาลาเรียทั่วโลกกว่า 225 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 781,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กในทวีปแอฟริกา ความสูญเสียดังกล่าวทำให้วัคซีนป้องกันโรคมาลาเรียกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญทางสาธารณสุขระดับโลก
📖 ประวัติการพัฒนาวัคซีน
การพัฒนาวัคซีนมาลาเรียเป็นความท้าทายที่ยาวนาน เนื่องจากเชื้อ Plasmodium มีวงจรชีวิตที่ซับซ้อนทั้งในยุงและในคน และสามารถเปลี่ยนรูปร่างรวมถึงชนิดของโปรตีนระหว่างแต่ละระยะ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตรวจจับและตอบสนองได้ยาก อีกทั้งยังมีความหลากหลายทางพันธุกรรมสูง จึงทำให้วัคซีนที่ผลิตจากสายพันธุ์หนึ่งไม่สามารถป้องกันสายพันธุ์อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในช่วงทศวรรษ 1960–1980 นักวิจัยเริ่มสนใจศึกษาระยะ sporozoite ของเชื้อ ซึ่งเป็นระยะที่ยุงถ่ายทอดเชื้อเข้าสู่คน และค้นพบโปรตีนสำคัญที่ชื่อว่า circumsporozoite protein (CSP) ซึ่งต่อมาเป็นเป้าหมายหลักของวัคซีน
ปี ค.ศ. 1987 บริษัท GlaxoSmithKline (GSK) ร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ เริ่มพัฒนาวัคซีน RTS,S โดยใช้เทคโนโลยี recombinant protein นำโปรตีน CSP มาผสมกับโปรตีนจากไวรัสตับอักเสบบี พร้อม adjuvant ชื่อ AS01 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แรงขึ้น ผลการทดลองใน 7 ประเทศแถบแอฟริกา (ปี 2009–2014) แสดงให้เห็นว่าวัคซีนสามารถลดอัตราการติดเชื้อได้ประมาณ 39% และลดอาการรุนแรงได้ประมาณ 29% ภายใน 4 ปีแรก
ปี ค.ศ. 2015–2019 WHO เริ่มแนะนำให้ใช้วัคซีน RTS,S อย่างจำกัดในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรง โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า Mosquirix และเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในเด็กที่ประเทศกานา เคนยา และมาลาวี
ปี ค.ศ. 2021 WHO รับรอง RTS,S อย่างเป็นทางการให้ใช้ในเด็กอายุ 5 เดือนขึ้นไปในพื้นที่ระบาดของ P. falciparum ถือเป็นวัคซีนมาลาเรียตัวแรกที่ได้รับการรับรอง จากนั้นในปี 2023 WHO ก็ได้รับรองวัคซีนตัวที่สองคือ R21/Matrix-M ซึ่งพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและ Serum Institute of India มีโครงสร้างคล้าย RTS,S แต่ใช้ adjuvant แบบใหม่ (Matrix-M) และให้ประสิทธิภาพสูงกว่า โดยสามารถลดการป่วยได้ประมาณ 75% หลังเข็ม booster
แม้ว่าทั้งสองวัคซีนจะยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้สมบูรณ์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดการป่วยและการเสียชีวิตจากมาลาเรีย โดยเฉพาะในเด็กเล็กในทวีปแอฟริกา
📊 เปรียบเทียบวัคซีนมาลาเรีย: RTS,S vs R21/Matrix-M
หัวข้อ |
RTS,S/AS01 (Mosquirix) |
R21/Matrix-M |
ผู้พัฒนา |
GlaxoSmithKline (GSK) ร่วมกับ PATH และ WHO |
มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ร่วมกับ Serum Institute of India และ Novavax |
ปีที่ WHO รับรอง |
ค.ศ. 2021 |
ค.ศ. 2023 |
ชื่อทางการค้า |
Mosquirix |
ยังไม่มีชื่อการค้าในวงกว้าง |
ชนิดวัคซีน |
Subunit vaccine (โปรตีน CSP ผสมโปรตีนไวรัสตับอักเสบบี) + Adjuvant AS01 |
Subunit vaccine (CSP ปริมาณสูงกว่า RTS,S) + Adjuvant Matrix-M |
กลุ่มเป้าหมาย |
เด็กอายุ 5 เดือนขึ้นไป ในพื้นที่ระบาด |
เด็กอายุ 5–36 เดือน ในพื้นที่ระบาด |
จำนวนเข็มพื้นฐาน |
ฉีดเข้ากล้าม 3 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน + booster ปีที่ 2 แนะนำที่อายุ 5, 6, 7 เดือน และกระตุ้นเมื่ออายุ 18 เดือน |
ฉีดเข้ากล้าม 3 เข็ม + booster เข็มที่ 4 หลัง 1 ปี |
ประสิทธิภาพ |
~39% ลดติดเชื้อ, ~29% ลดอาการรุนแรง (ใน 4 ปีแรก) |
~75% ในปีแรก, ~71–80% หลัง booster |
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย |
ไข้ ปวด บวมบริเวณฉีด (~5%) |
ไข้ อ่อนเพลีย บวม (~5–10%) |
ผลข้างเคียงรุนแรง |
พบได้น้อย เช่น ชัก (~0.1%) |
ยังไม่พบในการทดลองขนาดใหญ่ |
ข้อดีเด่น |
วัคซีนตัวแรกที่ WHO รับรอง ใช้จริงในหลายประเทศ |
ประสิทธิภาพสูงขึ้น ต้นทุนต่ำ ผลิตได้จำนวนมาก |
ข้อจำกัด |
ต้องฉีดหลายเข็ม และประสิทธิภาพลดลงตามเวลา |
ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการใช้งานจริง |
🏥 การใช้ในประเทศไทย
ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา อัตราการพบโรคมาลาเรียในประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพบมากในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา นักท่องเที่ยวสามารถป้องกันโรคได้โดยการใช้ยาต้านมาลาเรียและหลีกเลี่ยงการถูกยุงกัด สำหรับวัคซีนมาลาเรียยังไม่เปิดให้ใช้ในประเทศไทยในวงกว้าง แต่ในอนาคตหากวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและปลอดภัยมากพอ ก็อาจนำมาใช้ได้ในวงกว้างยิ่งขึ้น
📌 สรุป
วัคซีนมาลาเรียเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่สำคัญของโลก โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดรุนแรง แม้ประสิทธิภาพของวัคซีนยังไม่สมบูรณ์ แต่สามารถลดการป่วยและเสียชีวิตในเด็กได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันมีวัคซีนสองชนิด ได้แก่ RTS,S และ R21/Matrix-M ซึ่งมีความปลอดภัยและใช้งานจริงในหลายประเทศแล้ว สำหรับประเทศไทยยังไม่มีการใช้วัคซีนนี้ในระบบสาธารณสุข แต่เป็นไปได้ว่าในอนาคตจะมีบทบาทสำคัญในการควบคุมโรคมาลาเรีย
บรรณานุกรม
- WHO. 2025. "Malaria vaccines (RTS,S and R21)." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา WHO. (6 กรกฏาคม 2568).
- "RTS,S." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา PATH. (6 กรกฏาคม 2568).
- Praewpan Sirilurt. "WHO อนุมัติใช้ “วัคซีนมาลาเรีย” ตัวที่สองสำหรับเด็ก มีประสิทธิภาพสูงและราคาถูกลง
." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา SDG MOVE. (6 กรกฏาคม 2568).
- "วัคซีนป้องกันโรคมาลาเรีย." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย. (6 กรกฏาคม 2568).