วัคซีนงูสวัด (Zoster Vaccine)

โรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัส Varicella zoster ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส โดยการติดเชื้อครั้งแรกจะทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส มีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว และมีตุ่มน้ำใสขึ้นทั่วร่างกาย หลังหายจากอีสุกอีใส เชื้อไวรัสจะยังคงหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกาย และเมื่อภูมิคุ้มกันลดลงในอนาคต ประมาณ 15% ของผู้ป่วยจะกลับมาเป็นโรคงูสวัด

อาการของงูสวัดเริ่มต้นด้วยความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนังก่อนจะมีตุ่มน้ำใสขึ้นภายใน 1-2 วัน โดยตุ่มน้ำจะขึ้นเฉพาะที่ ไม่ลามข้ามกึ่งกลางลำตัว บริเวณที่เป็นจะยิ่งปวดแสบมากขึ้น อาจมีไข้หรือไม่ก็ได้ ตุ่มน้ำจะอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนแห้งและตกสะเก็ด ซึ่งอาจทิ้งรอยแผลเป็นสีขาวไว้ต่างจากตุ่มอีสุกอีใสที่ไม่ทิ้งรอย เมื่อแผลหายดีแล้ว ยังอาจเกิดอาการปวดแสบร้อนได้อีกโดยไม่มีตุ่มน้ำ เรียกว่า "post herpetic neuralgia" พบได้ราว 40-44% ของผู้ป่วย และอาจเป็นซ้ำได้หลายปี ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก

ในเด็กหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคงูสวัดอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน เช่น สมองอักเสบ ปอดอักเสบ หรือการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำบริเวณแผล

📖   ประวัติการพัฒนาวัคซีนงูสวัด

วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดชนิดแรก คือ Zostavax® ของบริษัท Merck พัฒนาในปี ค.ศ. 2006 เป็นวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ (live attenuated vaccine) ที่ใช้เชื้อสายพันธุ์ Oka มากกว่าวัคซีนอีสุกอีใสถึง 10 เท่า ฉีดเพียงเข็มเดียวเข้าใต้ผิวหนัง ให้การป้องกันโรคได้ 51.3% นาน 8 ปี และลดความเสี่ยงของภาวะ post herpetic neuralgia ได้ถึง 66.5%

วัคซีนชนิดที่สองคือ Shingrix® ของบริษัท GSK พัฒนาในปี ค.ศ. 2017 เป็นวัคซีนชนิด recombinant subunit ที่ใช้โปรตีน gE จากเปลือกไวรัสร่วมกับสารกระตุ้นภูมิ AS01B suspension ผลิตด้วยเทคโนโลยีพันธุวิศวกรรม ฉีดเข้ากล้าม 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงถึง 97.2% นาน 10 ปี

แม้เคยเป็นโรคงูสวัดแล้ว ก็ยังสามารถเป็นซ้ำได้อีก วัคซีนจึงยังจำเป็น เพราะช่วยลดโอกาสเป็นซ้ำ ลดความรุนแรงของโรค และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยควรฉีดวัคซีนหลังจากหายจากโรคงูสวัดแล้วอย่างน้อย 6 เดือน



🏥   การใช้ในประเทศไทย

ในประเทศไทย แนะนำให้ผู้ที่มีอายุ > 60 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนงูสวัดโดยไม่จำเป็นต้องมีประวัติเป็นอีสุกอีใสหรือโรคงูสวัดมาก่อน และสามารถฉีดร่วมกับวัคซีนอื่นที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือวัคซีนนิวโมคอคคัส โดยฉีดคนละข้างของต้นแขน

ในปัจจุบัน เอกชนเริ่มรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป โดยวัคซีนที่นิยมใช้คือชนิด recombinant subunit vaccine (Shingrix®) เพราะมีประสิทธิภาพสูงกว่าและสามารถใช้ได้แม้ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง แม้ต้องฉีด 2 เข็มก็ตาม

⚠️   ผลข้างเคียงที่อาจพบ

วัคซีนงูสวัดมักก่อให้เกิดผลข้างเคียงเล็กน้อยและหายได้เองภายใน 2-3 วัน

  1. วัคซีน Zostavax® อาจมีอาการ:
    • ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด (35%)
    • คันบริเวณที่ฉีด (6.9%)
    • ปวดศีรษะ (1.4%)
    • มีไข้สูงกว่า 38°C (0.8%)
    • ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่พบได้น้อย เช่น Anaphylaxis, โรคหืดกำเริบ, Polymyalgia rheumatica, Goodpasture’s syndrome, Guillain-Barré syndrome
  2. วัคซีน Shingrix® อาจมีอาการ:
    • ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด (10%)
    • ปวดเนื้อตัว กล้ามเนื้อล้า (45%)
    • ปวดศีรษะ (1-8%)
    • คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง (1-2%)
    • มีไข้สูงกว่า 38°C (0.4%)
    • ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง พบได้น้อยมาก

วัคซีนทั้งสองชนิดอยู่ในรูปผงแห้ง (lyophilized) ต้องผสมกับน้ำยาละลาย (diluent) ก่อนฉีด โดยต้องใช้ภายใน 30 นาทีหลังผสมสำหรับ Zostavax® และภายใน 6 ชั่วโมงสำหรับ Shingrix®

การเก็บรักษาวัคซีนต้องอยู่ในอุณหภูมิ 2-8°C หลีกเลี่ยงแสงสว่าง โดยผงวัคซีนสามารถแช่แข็งได้แต่น้ำยาละลายห้ามแช่แข็งเพราะจะขยายตัวจนทำให้ขวดแตก วัคซีนที่ยังไม่ได้ผสมสามารถเก็บได้นานถึง 2 ปี

📌   สรุป

โรคงูสวัดเป็นภาวะที่มักเกิดในผู้ที่เคยติดเชื้ออีสุกอีใสมาก่อน โดยเชื้อจะฟักตัวอยู่ในปมประสาท และเกิดโรคอีกครั้งเมื่อภูมิคุ้มกันลดลง วัคซีนงูสวัดมี 2 ชนิด ได้แก่ Zostavax® และ Shingrix® ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการป้องกันแตกต่างกัน โดย Shingrix® มีประสิทธิภาพสูงกว่าและสามารถใช้ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำได้ วัคซีนแนะนำสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หรือ 50 ปีในบางกรณี เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนเรื้อรัง เช่น post herpetic neuralgia


บรรณานุกรม

  1. Charlotte Warren-Gash, et al. 2017. "Varicella and herpes zoster vaccine development: lessons learned." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Expert Rev Vaccines. 2017;16(12):1191–1201. (9 พฤษภาคม 2564).
  2. "Shingles (Herpes Zoster)." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา historyofvaccine.org. (10 พฤษภาคม 2564).
  3. "What is the history of Shingles vaccine in America and other countries?" [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา nvic.org. (10 พฤษภาคม 2564).
  4. "Zoster vaccine." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Wikipedia (10 พฤษภาคม 2564).
  5. "คำแนะนำการให้วัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย (10 พฤษภาคม 2564).
  6. ภก.สิกขวัฒน์ นักร้อง. "วัคซีนอีสุกอีใส และวัคซีนงูสวัด แตกต่างกันอย่างไร." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา วงการแพทย์ (10 พฤษภาคม 2564).
  7. "Hightlights of prescribing information: Zostavax." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Merck (10 พฤษภาคม 2564).
  8. "Shingrix Storage & Dosing." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา GSK MedInfo (10 พฤษภาคม 2564).