การคัดกรองมะเร็งในคนทั่วไป (Cancer screening)
การตรวจคัดกรองมะเร็ง คือ การค้นหามะเร็งในระยะเริ่มต้นในผู้ที่ยังไม่มีอาการ แต่มี "ความเสี่ยง" ที่อาจทำให้เกิดมะเร็งชนิดนั้นในอนาคต เนื่องจากการตรวจแต่ละชนิดมักใช้เทคนิคพิเศษ เช่น การเอกซเรย์ หรือตรวจเซลล์จากสารคัดหลั่งหรือชิ้นเนื้อ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง จึงไม่แนะนำให้ตรวจคัดกรองกับคนทั่วไปทุกคนในทุกปี
แต่ละชนิดของมะเร็งมีปัจจัยเสี่ยงที่แตกต่างกัน ประชาชนจึงควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งแต่ละชนิด และพยายามลดความเสี่ยงเหล่านั้นด้วยตนเอง หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรตระหนักถึงความเสี่ยงส่วนบุคคล เฝ้าระวังอาการผิดปกติ และเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการตรวจพบและรักษาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาหายขาด
ใช้ Tumor markers คัดกรองได้ไหม?
การตรวจสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor markers) ไม่แนะนำให้ใช้เพื่อคัดกรองในคนทั่วไป เพราะสารเหล่านี้อาจพบได้ในคนปกติ หรืออาจไม่พบในผู้ที่เป็นมะเร็งก็ได้ นอกจากนี้ ยังอาจให้ผลผิดปกติจากปัจจัยอื่น เช่น การใช้ยา อาหารเสริม การสูบบุหรี่ การติดเชื้อ การอักเสบ หรือเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลโดยไม่จำเป็น ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อต้องตรวจซ้ำ
Tumor markers มีบทบาทหลักในการติดตามผลการรักษา การกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็ง หรือใช้ร่วมในการวินิจฉัยก้อนที่สงสัยว่าเป็นมะเร็ง เพื่อวางแผนการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้ออย่างเหมาะสม มากกว่าจะใช้เพื่อการคัดกรองในคนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม มี Tumor markers 2 ตัวที่พอจะอนุโลมให้ใช้คัดกรองมะเร็งได้ในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง คือ AFP สำหรับมะเร็งตับ และ PSA สำหรับมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ควรใช่คู่กับวิธีคัดกรองอื่นของมะเร็งนั้น ๆ ด้วย
ตรวจหามะเร็งอะไรได้บ้าง?
ปัจจุบันมีวิธีคัดกรองมะเร็งในผู้มีความเสี่ยงเพียง 6 ชนิด ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งทางเดินอาหาร (ส่วนบนและล่าง) มะเร็งปอด และมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งอื่นนอกจากนี้ยังไม่มีวิธีคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนสามารถศึกษาความเสี่ยงก่อนเข้ารับการตรวจได้ที่เมนูวิธีคัดกรองมะเร็งทั้ง 6 ชนิด
แม้ไม่มีความเสี่ยงชัดเจน แต่หากต้องการตรวจเพื่อความสบายใจ ก็สามารถขอรับการตรวจได้ แต่อาจมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเบิกคืนได้
ไม่เสี่ยงเลยจะตรวจเมื่อไหร่ดี?
มะเร็งทั้ง 6 ชนิดนี้มีช่วงอายุที่พบแตกต่างกัน การคัดกรองโดยไม่มีความเสี่ยง อย่างน้อยควรเริ่มที่อายุที่เหมาะสม ดังนี้
- มะเร็งปอด
- เริ่มพบที่อายุ 28 ปี หากอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่น PM2.5 สูงต่อเนื่องนานกว่า 5 ปี
- เริ่มตรวจที่อายุ 50 ปี สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่
- มะเร็งเต้านม
- หญิง: เริ่มตรวจที่อายุ 40 ปี หากมีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม ควรเริ่มตั้งแต่อายุ 25 ปี
- ชาย: พบได้น้อยมาก จึงไม่จำเป็นต้องคัดกรอง
- มะเร็งปากมดลูก
พบน้อยมากในผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันแนะนำให้เริ่มตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว 3 ปี และสามารถหยุดตรวจได้เมื่ออายุ 65 ปี หากผลตรวจ 3 ครั้งหลังสุดเป็นปกติ
- มะเร็งตับและท่อน้ำดี
- ชาย: เริ่มตรวจที่อายุ 40 ปี
- หญิง: เริ่มตรวจที่อายุ 50 ปี
- ยกเว้นกรณีมีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ตับแข็ง หรือมีญาติสายตรงเป็นมะเร็งตับ ควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 25 ปี
- มะเร็งทางเดินอาหาร
เริ่มตรวจที่อายุ 45 ปี หากมีความเสี่ยงสูง อาจเริ่มตั้งแต่อายุ 25 ปี
- มะเร็งต่อมลูกหมาก
ในผู้ชาย เริ่มตรวจที่อายุ 50 ปี
สรุป
การตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นวิธีสำคัญในการค้นหามะเร็งในระยะเริ่มต้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงเฉพาะด้านหรืออยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ใช้การตรวจ Tumor markers เพื่อคัดกรองทั่วไป เพราะไม่แม่นยำและอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด การป้องกันโรคด้วยการลดปัจจัยเสี่ยง การเฝ้าระวังอาการ และการเข้ารับการตรวจตามคำแนะนำ จะช่วยให้ตรวจพบและรักษามะเร็งได้ตั้งแต่ระยะแรก เพิ่มโอกาสในการหายขาดได้มากยิ่งขึ้น
บรรณานุกรม
- "การตรวจคัดกรองมะเร็งในคนทั่วไป." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย. (17 กรกฏาคม 2568).
- ผศ.พญ.ศันสนีย์ เสนะวงษ์. "สารบ่งชี้มะเร็ง (tumor marker) ที่ควรรู้จัก." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. (17 กรกฏาคม 2568).