กรดยูริกในเลือดสูง (Hyperuricemia)
ค่าปกติของกรดยูริกในเลือดไม่เท่ากันในชาย-หญิง เพศชายจะมีค่าปกติที่สูงกว่า และมีอุบัติการณ์ที่กรดยูริกจะสูงเกินค่าปกติจนมีโรคแทรกซ้อนตามมาได้มากกว่าเพศหญิง โรคแทรกซ้อนนี้เกิดจากกรดยูริกตกตะกอนเป็นผลึกยูเรตไปสะสมตามข้อและไต ส่งผลให้มีอาการปวดข้อ ข้อบวมฉับพลัน แต่หายได้เองใน 5-10 วัน ซึ่งเรียกว่าโรคเกาต์ และเกิดนิ่วที่ไต ทำให้ไตเสื่อม
ส่วนระดับของกรดยูริกที่ต่ำกว่าค่าปกติไม่ส่งผลให้เกิดโรคใด ๆ การแปลงหน่วยของกรดยูริกจาก mg/dL เป็น mmol/L ให้คูณด้วย 0.06 (โดยประมาณ) หากแปลงเป็น μmol/L ให้คูณด้วย 59.48 หรือจะใช้เครื่องแปลงหน่วยได้ ที่นี่
สาเหตุของภาวะกรดยูริกในเลือดสูง
กรดยูริกเป็นผลผลิตสุดท้ายของขบวนการเผาผลาญพิวรีน (purine metabolism) สองในสามของพิวรีนในร่างกายมาจากการสร้าง DNA และ RNA ภายในเซลล์เอง อีกหนึ่งในสามมาจากอาหารโปรตีนที่เรารับประทานเข้าไป พิวรีนที่ออกมาจากเซลล์ที่ตายแล้วและจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปจะอยู่ในกระแสเลือด ร่างกายมีขบวนการเปลี่ยนแปลงพิวรีนให้เป็นกรดยูริกโดยอาศัยเอนไซม์ Xanthine oxidase แล้วขับทิ้งทางไตเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้น สาเหตุที่กรดยูริกในเลือดสูงจึงเกิดได้จาก
- การที่เซลล์ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว เช่น หลังการรับยาเคมีบำบัดในแต่ละรอบ ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกจากยาหรือแพ้ภูมิตัวเอง โรคสะเก็ดเงิน สารพิวรีนในเซลล์ที่ตายทะลักออกมาในกระแสเลือด จนร่างกายต้องรีบเปลี่ยนเป็นกรดยูริกเพื่อกำจัดทิ้ง
- การรับประทานอาหารที่มีพิวรีนมากเกินไป เช่น เนื้อสัตว์ (โดยเฉพาะสัตว์ปีก) ตับ อาหารทะเล ถั่วแทบทุกชนิด หน่อไม้ไทยและเทศ กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ ยอดผัก ฯลฯ
- ภาวะไตวาย จึงไม่สามารถขับของเสียในร่างกายออกได้หมด
- ยาหรือสารบางชนิดที่ลดการขับกรดยูริกทิ้งทางไต เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ยาขับปัสสาวะ แอสไพริน กรดนิโคตินิก cyclosporine, ethambutol, pyrazinamide, levodopa เป็นต้น
- ภาวะขาดน้ำและเลือดเป็นกรด ทำให้กำจัดกรดยูริกทิ้งทางไตได้น้อยลง เช่น lactic acidosis, ketosis, dehydration
- โรคทางพันธุกรรมแต่กำเนิดบางอย่าง รวมทั้งโรคต่อมไร้ท่อ ที่รบกวนการเผาผลาญพิวรีน เช่น HGPRT deficiency, APRT deficiency, PRPP synthetase overactivity, Glycogen storage diseases (types I, III, V, and VII), Hypothyroidism, Hyperparathyroidism เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีภาวะที่พบร่วมกับการมียูริกในเลือดเกิน โดยเชื่อว่าเป็นจากพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิต ได้แก่ โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง เหล่านี้รวมเรียกว่า "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง" หรือ Non-Communicable Disease, NCD ดังนั้นจึงควรหาโรคร่วมเหล่านี้และรักษาไปพร้อม ๆ กัน
แนวทางการวินิจฉัย
ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงมีหลายระดับความรุนแรง ระดับที่สูงเล็กน้อยถึงปานกลางมักมาจากพฤติกรรมการบริโภคเป็นส่วนใหญ่ ระดับนี้คนไข้ยังไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่ถ้าทิ้งไว้นาน ๆ ก็จะเริ่มมีปัญหาปวดข้อและไตเสื่อม การหาสาเหตุและโรคร่วมจึงควรเริ่มตั้งแต่ระดับที่สูงปานกลางขึ้นไป
โดยเริ่มจากการซักประวัติโรคที่เซลล์ถูกทำลายมาก โรคประจำตัวที่ต้องรับยาที่ลดการขับกรดยูริกทิ้ง อาหารเสริม รูปแบบการบริโภคอาหารประจำวัน และการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ตรวจร่างกายดูความดันโลหิต ภาวะขาดน้ำ และโรคร่วมอื่น ๆ จากนั้นให้ตรวจดูการทำงานของไต เบาหวาน ไขมันในเลือด ไทรอยด์ ระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัส หากเป็นในเด็กให้ตรวจโรคทางพันธุกรรมแต่กำเนิด
แนวทางการรักษา
ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงที่ยังไม่มีอาการปวดข้อหรือไตเสื่อม แพทย์ส่วนใหญ่จะยังไม่ให้ยาลดกรดยูริก แต่จะให้คุมอาหารไปก่อน เฉพาะรายที่มีกรดยูริกเกิน 8.0 mg/dL อยู่นาน หรือมีประวัติโรคเกาต์ในครอบครัวหลายคน จึงจะเริ่มยา
ส่วนผู้ที่มีอาการของโรคเกาต์แล้ว หรือมีโทไฟรอบข้อ หรือมีไตเสื่อม หรือมีนิ่วที่ไต หรือมีภาวะยูริกสูงมากเฉียบพลันจากเซลล์แตก แพทย์จะให้ยาลดกรดยูริกทุกราย แต่อาจเริ่มหลังข้ออักเสบดีขึ้นบ้างแล้ว เพราะถ้าให้ขณะที่ยังปวดข้อ อาการปวดข้อจะยิ่งเป็นมากขึ้น การใช้ยาควรทำควบคู่ไปกับการคุมอาหารและการงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ หากมีโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ก็ควรรักษาโรคเหล่านี้ไปด้วย
บรรณานุกรม
- พญ.ปริฉัตร เอื้ออารีวงศา และพญ.สิริพร จุทอง. "Challenge in Management of
Hyperuricemia and Gout." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (6 สิงหาคม 2566).
- Mark D. Harris, et al. 2002. "Gout and Hyperuricemia." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา American Family Physician. (6 สิงหาคม 2566).
- H. Erhan Dincer, et al. "Asymptomatic hyperuricemia: To treat or not to treat." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Clev Clin J Med 2002;69(8):594-608. (6 สิงหาคม 2566).
- "Uric acid." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล. (6 สิงหาคม 2566).