ความดันโลหิตแคบ (Narrow pulse pressure)
ความดันโลหิตประกอบด้วยตัวเลข 2 ค่า มีหน่วยเป็น มิลลิเมตรปรอท (mmHg)
- ความดันตัวบน (systolic) คือความดันในหลอดเลือดแดงขณะที่หัวใจบีบตัวส่งเลือดออก ทำให้ผนังหลอดเลือดโป่งและเป็นจังหวะที่เราคลำได้จากชีพจร
- ความดันตัวล่าง (diastolic) คือความดันพื้นฐานในหลอดเลือดแดงขณะหัวใจคลายตัวเพื่อรับเลือดกลับ
ความดันเฉลี่ย (mean arterial pressure, MAP) = ความดันค่าล่าง + ⅓ (ความดันค่าบน - ความดันค่าล่าง) ค่าปกติคือ 70-100 mmHg
ความกว้างของความดัน (pulse pressure, PP) คือผลต่างระหว่างค่าบนและค่าล่าง โดยทั่วไปอยู่ที่ 25–50% ของความดันค่าบน
เมื่อค่าช่วงกว้างแคบผิดปกติ แสดงว่าร่างกายกำลังพยายามชดเชยความผิดปกติของระบบไหลเวียนอย่างเต็มที่แล้ว และอาจกำลังเข้าสู่ภาวะอันตราย ซึ่งต้องได้รับการดูแลจากแพทย์โดยเร็ว
ภาวะความดันโลหิตแคบมักพบใน 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ ภาวะช็อก ความดันโลหิตสูงแบบตัวล่างสูง และภาวะหัวใจส่งเลือดออกได้น้อย
กรณีที่ 1: ภาวะช็อก
เมื่อร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะช็อก ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด ความดันค่าบนจะลดลงก่อน เพราะหัวใจส่งเลือดได้ลดลง แต่ร่างกายพยายามตรึงค่าล่างไว้โดยสั่งให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้ช่วงกว้างของความดันแคบลง แม้ความดันเฉลี่ยอาจยังปกติอยู่ช่วงแรก
หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ ความดันจะลดลงต่อเนื่องจนต่ำกว่า 70 mmHg ถือว่าเข้าสู่ภาวะช็อกเต็มรูปแบบ เสี่ยงต่อการขาดเลือดของอวัยวะสำคัญ
กรณีที่ 2: ความดันโลหิตสูงแบบตัวล่างสูง
ผู้ป่วยบางราย โดยเฉพาะเพศชายที่เริ่มมีน้ำหนักเกินตั้งแต่อายุยังน้อย อาจมีความดันตัวล่างสูงเป็นหลัก เช่น 120/91 หรือ 125/95 ทำให้เข้าใจผิดว่าตนมีความดันปกติ
ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมาพบแพทย์เมื่อตัวเลขสูงขึ้นเป็น 140/100 ขึ้นไป หรือมีอาการปวดศีรษะ มึนงงบ่อย ปัจจุบันถือว่าค่าความดันที่เกิน 120/80 ถือว่าผิดปกติและควรตรวจเพิ่มเติม
กรณีที่ 3: ภาวะหัวใจสูบฉีดเลือดได้ลดลง
เกิดได้จากทางออกเลือดของหัวใจตีบ หรือหัวใจห้องล่างซ้ายรับเลือดได้น้อย ความดันตัวบนจึงต่ำเพราะแรงบีบตัวลดลง ร่างกายพยายามรักษาความดันเฉลี่ยให้อยู่ในเกณฑ์ ส่งผลให้ความกว้างของความดันแคบลง
สาเหตุของความดันโลหิตแคบ
จากตัวอย่างข้างต้น สาเหตุของความดันโลหิตแคบจึงแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
- ภาวะช็อกจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น
- ติดเชื้อในกระแสเลือด
- หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
- เสียเลือดมาก
- เสียน้ำในปริมาณมาก
- ต่อมหมวกไตไม่ทำงาน
- ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำรุนแรง (Myxedema)
- ความดันโลหิตสูงชนิดตัวล่างสูง จาก
- หัวใจฉีดเลือดได้น้อย จาก
- ลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ หรือหลอดเลือดแดงเอออร์ตาตีบ
- กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว (Hypertrophic obstructive cardiomyopathy)
- กล้ามเนื้อหัวใจหดตัวผิดปกติ (Restrictive cardiomyopathy)
- ลิ้นหัวใจไมตรัลรั่วมาก
- มีน้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจมากจนกดหัวใจ (Cardiac tamponade)
- เยื่อหุ้มหัวใจบีบรัด (Constrictive pericarditis)
- ปอดทะลุและมีลมดัน (Tension pneumothorax)
- หัวใจเต้นเร็วมากจนรับเลือดไม่ทัน
อาการของความดันโลหิตแคบ
ความดันโลหิตแคบเป็น "อาการแสดง" หมายถึงโดยตัวมันเองไม่ทำให้เกิดอาการอันใด แต่เป็นสัญญาณให้แพทย์ค้นหาความผิดปกติที่ซุกซ่อนอยู่ ส่วนใหญ่คนไข้จะมีอาการของโรคต้นเหตุอยู่แล้ว
แนวทางการตรวจรักษา
การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดความดันแคบ หากผู้ป่วยมีความดันต่ำ เหนื่อยมาก หรือสงสัยภาวะช็อก แพทย์จะรับไว้รักษาในโรงพยาบาลทันทีพร้อมตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียด
ในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงแบบตัวล่างสูง หากตรวจไม่พบสาเหตุเฉพาะ แพทย์จะให้ยาควบคุมความดันเช่นเดียวกับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงทั่วไป
โดยยาที่มักเหมาะสมคือ กลุ่มยาต้านแองจิโอเทนซิน (ARBs) และ กลุ่มยาขับปัสสาวะ (Diuretics) [1]
สรุป
ความดันโลหิตแคบเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญของความผิดปกติในระบบไหลเวียนเลือด ไม่ว่าจะเกิดจากภาวะช็อก ความดันโลหิตสูงชนิดตัวล่างสูง หรือการที่หัวใจส่งเลือดออกได้น้อย การตรวจพบแต่เนิ่น ๆ มีส่วนช่วยให้การรักษาได้ผลดีและลดความเสี่ยงของอวัยวะขาดเลือด
หากพบค่าความดันผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสาเหตุและรับการดูแลที่เหมาะสม
บรรณานุกรม
- Hiromichi Suzuki. 2014. "Pulse Pressure Is Useful for Determining the Choice of Antihypertensive Drugs in Postmenopausal Women." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Pulse. 2014 May;1(3-4):152–160. (6 ธันวาคม 2568).
- "Pulse Pressure (PP) คืออะไร." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา อายุรศาสตร์ มศว. (6 ธันวาคม 2568).
- Richard E. Klabunde. 2016. "Arterial and Aortic Pulse Pressure." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา cvphysiology.com (6 ธันวาคม 2568).
- Richard E. Klabunde. 2016. "Mean Arterial Pressure." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Cardiovascular Physiology Concepts. (6 ธันวาคม 2568).