ไอในทารก (Infant cough)

อาการไอในทารกเป็นปัญหาที่พบบ่อยในเวชปฏิบัติด้านกุมารเวชศาสตร์ โดยเฉพาะในช่วงวัยแรกเกิดถึงอายุ 1 ปี การไออาจเป็นกลไกป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายเพื่อขับเสมหะ สิ่งระคายเคือง หรือเชื้อโรคออกจากทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตาม ในทารกซึ่งมีทางเดินหายใจแคบและระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ อาการไออาจเป็นสัญญาณของโรคที่ต้องได้รับการประเมินอย่างเหมาะสม

สาเหตุของอาการไอในทารก

  1. การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน
    เช่น หวัด (Common cold) เกิดจากไวรัส อาจมีน้ำมูก คัดจมูก จาม และไอเล็กน้อย
  2. หลอดลมฝอยอักเสบ (Bronchiolitis)
    พบบ่อยในทารกอายุต่ำกว่า 1 ปี มักเกิดจาก RSV มีอาการไอ หายใจเร็ว หายใจมีเสียงหวีด
  3. ปอดบวม (Pneumonia)
    อาจเกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ร่วมกับไข้สูง ซึม หายใจลำบาก
  4. กรดไหลย้อนในทารก (Gastroesophageal reflux)
    กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาระคายเคืองทางเดินหายใจ ทำให้ไอเรื้อรังหรือไอหลังให้นม
  5. สิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ
    อาจมีอาการไอเฉียบพลัน ไอรุนแรง หรือหายใจลำบากทันที
  6. ภูมิแพ้หรือการระคายเคือง
    เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ กลิ่นฉุน ทำให้เกิดการไอเรื้อรัง
  7. ไอกรน (Pertussis)
    พบได้ในทารกที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบ ไอเป็นชุดยาว อาจเขียวหรือหยุดหายใจ

จุดที่ควรพบทันทีแพทย์



แนวทางการวินิจฉัย

การวินิจฉัยอาการไอในทารกเริ่มจากการซักประวัติอย่างละเอียด เช่น ระยะเวลาที่ไอ ลักษณะของไอ การมีไข้ การดูดนม และประวัติการสัมผัสผู้ป่วย ร่วมกับการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ

ในบางกรณี แพทย์อาจพิจารณาการตรวจเพิ่มเติม ได้แก่

  • เอกซเรย์ทรวงอก (Chest X-ray)
  • การตรวจหาเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
  • การตรวจออกซิเจนในเลือด (Pulse oximetry)

แนวทางการรักษา

การรักษาตามสาเหตุ

  • การติดเชื้อไวรัส: ให้การรักษาประคับประคองเป็นหลัก
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย: ให้ยาปฏิชีวนะตามดุลยพินิจของแพทย์
  • หลอดลมฝอยอักเสบ: ดูแลทางเดินหายใจ ให้สารน้ำ และออกซิเจนหากจำเป็น
  • กรดไหลย้อน: ปรับท่าการให้นม และพิจารณาการรักษาเฉพาะราย

วิธีบรรเทาอาการที่บ้าน

  • ให้นมบ่อยครั้งในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • ดูดน้ำมูกด้วยลูกยางหรือเครื่องดูดน้ำมูกก่อนให้นม
  • จัดท่านอนให้ศีรษะสูงเล็กน้อย (ตามความเหมาะสมและปลอดภัย)
  • ดูแลอากาศให้ชื้นพอเหมาะ หลีกเลี่ยงอากาศแห้ง
  • หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ฝุ่น และสิ่งระคายเคือง

หมายเหตุ: ไม่ควรให้ยาน้ำแก้ไอในทารกโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย

สรุป

อาการไอในทารกอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การติดเชื้อทางเดินหายใจทั่วไป ไปจนถึงภาวะที่รุนแรงและต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน การสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด การรู้จักสัญญาณอันตราย และการพบทันทีแพทย์เมื่อมีข้อสงสัย เป็นหัวใจสำคัญในการดูแลทารกให้ปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี