ภาวะบกพร่องทางเพศของหญิง (Female sexual dysfunctions)

ภาวะบกพร่องทางเพศของหญิง หมายถึง ความผิดปกติในด้านความต้องการทางเพศ การตอบสนอง ความพึงพอใจ หรืออาการที่เกิดระหว่างมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ความสัมพันธ์ส่วนตัว และสุขภาวะทางอารมณ์ของผู้หญิง

อาการเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือบ่อยครั้ง และก่อให้เกิดความทุกข์ใจหรือประเด็นปัญหาทางสัมพันธภาพ จึงจะถือว่าเข้าข่ายภาวะผิดปกติทางคลินิก

อุบัติการณ์

ภาวะบกพร่องทางเพศพบได้บ่อยในสตรีทั่วโลก โดยมีข้อมูลว่าผู้หญิงมากกว่า 40–50% อาจประสบภาวะนี้ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ความชุกอาจแตกต่างไปตามช่วงวัย สุขภาพกาย สภาวะอารมณ์ ความเครียด ความสัมพันธ์กับคู่ครอง รวมถึงปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม

ในสตรีวัยหมดประจำเดือน (menopausal women) อัตราการพบภาวะดังกล่าวมักสูงขึ้น โดยเฉพาะอาการเจ็บปวดขณะมีความสัมพันธ์ และความต้องการทางเพศที่ลดลง ซึ่งสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างเด่นชัด

ปัญหาที่พบบ่อย

  1. ความต้องการทางเพศลดลง (Hypoactive Sexual Desire)
  2. ความเร้าอารมณ์ยากหรือไม่เพียงพอ (Arousal Difficulties)
  3. การถึงจุดสุดยอดลดลงหรือเกิดได้ยาก (Orgasmic Disorders)
  4. อาการเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ (Genito-Pelvic Pain Disorders)

สาเหตุของแต่ละปัญหา

1. ความต้องการทางเพศลดลง

  • ความเครียดเรื้อรัง เหนื่อยล้า ภาระงานสูง
  • ปัญหาความสัมพันธ์ เช่น ความขัดแย้งหรือขาดความใกล้ชิดทางอารมณ์
  • โรคประจำตัว เช่น ภาวะซึมเศร้า ภาวะไทรอยด์ต่ำ
  • ผลข้างเคียงของยา เช่น ยาต้านซึมเศร้า
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น หลังคลอด หรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน

2. ความเร้าอารมณ์ยากหรือไม่เพียงพอ

  • ปัญหาการไหลเวียนเลือดบริเวณอุ้งเชิงกราน
  • ความกังวลเกี่ยวกับรูปร่างหรือภาพลักษณ์ของตนเอง
  • ความไม่สบายตัวจากช่องคลอดแห้ง
  • ผลยา เช่น ยาลดความดันบางชนิด

3. การถึงจุดสุดยอดยาก

  • ปัจจัยทางจิตใจ เช่น ความกังวล ความเกร็ง
  • ประวัติการบาดเจ็บทางจิตใจหรือประสบการณ์เชิงลบ
  • ผลของยาที่กดการทำงานของระบบประสาท
  • โรคทางระบบประสาท เช่น เบาหวานเรื้อรังที่มีภาวะเส้นประสาทเสื่อม

4. อาการเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์

  • ภาวะช่องคลอดแห้งจากฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง
  • โรคทางนรีเวช เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
  • การอักเสบเรื้อรังของระบบสืบพันธุ์
  • กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหดเกร็งผิดปกติ
  • ปัจจัยทางอารมณ์หรือความเจ็บปวดเรื้อรัง


แนวทางการวินิจฉัย

การประเมินภาวะบกพร่องทางเพศของหญิง ควรครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และความสัมพันธ์ โดยแนวทางสำคัญประกอบด้วย:

  • การซักประวัติทางการแพทย์และจิตสังคม เช่น โรคประจำตัว การใช้ยา ฮอร์โมน ความเครียด ภาวะอารมณ์ และคุณภาพความสัมพันธ์
  • การประเมินการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ เช่น การตรวจฮอร์โมนไทรอยด์ หรือฮอร์โมนเพศหากมีข้อบ่งชี้
  • การตรวจร่างกายและตรวจอุ้งเชิงกราน เพื่อตรวจหาความเจ็บปวด การอักเสบ หรือความผิดปกติทางกายภาพ
  • การใช้แบบประเมินมาตรฐาน เช่น Female Sexual Function Index (FSFI)
  • การพิจารณาปัจจัยด้านสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ

สรุป

ภาวะบกพร่องทางเพศของหญิง เป็นภาวะที่พบบ่อยและมีหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งด้านร่างกาย ฮอร์โมน อารมณ์ และสัมพันธภาพ การวินิจฉัยที่ดีต้องดูทั้งองค์ประกอบทางชีวภาพและจิตสังคมอย่างครอบคลุม การให้ความรู้ ความเข้าใจ และการเข้ารับการประเมินอย่างเหมาะสม สามารถช่วยให้ผู้หญิงได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ลดความทุกข์ใจ และเพิ่มคุณภาพชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ