โรคฉี่หนู (Leptospirosis, Weil's disease)
โรคฉี่หนู หรือเล็พโตสไปโรสิส มีสาเหตุมาจากเชื้อ Leptospira interrogans ซึ่งเป็นเชื้อในกลุ่มสไปโรขีต (spirochete)
จุลชีพกลุ่มนี้มีลักษณะเป็นสายยาวขดเป็นเกลียว ปกติจะอาศัยอยู่ในไตของสัตว์ฟันแทะ โดยเฉพาะหนู หนูที่มีเชื้อเล็พโตสไปราจะไม่ป่วยแต่สามารถขับเชื้อออกมาทางปัสสาวะได้ตลอดชีวิต เชื้อสามารถไชเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ทางผิวหนังที่มีแผล ทางเยื่อบุจมูก เยื่อบุตา และทางปาก
โรคเล็พโตสไปโรสิสเกิดชุกในช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน เพราะพื้นดินมีน้ำท่วมขัง คนได้รับเชื้อง่ายจากการลุยน้ำที่ไม่สะอาด
พยาธิสภาพ
เมื่อเชื้อเล็พโตสไปราไชผ่านผิวหนังหรือเยื่อบุเข้าไปในหลอดเลือด มันจะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนและถูกกระแสโลหิตพัดไปทั่วร่างกาย
ทำให้เกิดการอักเสบของหลายอวัยวะ โดยเฉพาะที่ตับ ไต ปอด และกล้ามเนื้อ ในรายที่เป็นรุนแรงจะมีการทำลายผนังของหลอดเลือดฝอย ทำให้มีจุดเลือดออกในอวัยวะต่าง ๆ และอาจมีภาวะเม็ดเลือดแดงแตกในหลอดเลือด แต่ส่วนใหญ่โรคเล็พโตสไปโรสิสจะไม่เป็นถึงขั้นรุนแรง ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะช่วยกำจัดเชื้อออกไปเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง เชื้อจะถูกร่างกายขับออกมาทางปัสสาวะ แต่ปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันจะทำให้เกิดอาการอักเสบต่อของบางอวัยวะ ที่พบบ่อยคือที่เยื่อหุ้มสมอง
อาการของโรค
โรคฉี่หนูมีความรุนแรงตั้งแต่ไม่มีอาการอะไรเลย ไปจนถึงขั้นช็อคและเสียชีวิต ผู้ป่วยที่มีอาการจะเริ่มแสดงหลังได้รับเชื้อเข้าไปภายใน 3 สัปดาห์ อาการแบ่งได้เป็น 2 ระยะ คือ
- ระยะเลือดเป็นพิษ (leptospiremic phase): เชื้ออยู่ในกระแสเลือด ผู้ป่วยมีไข้สูง หนาวสั่น ตาแดง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดท้อง ท้องเสีย เจ็บคอ ปวดข้อ และอ่อนเพลียมาก
ต่อมาอาจมีอาการตาเหลือง หายใจหอบ จุดเลือดออกตามผิวหนังและเยื่อบุตา ไอเป็นเลือด ปัสสาวะน้อยหรือมีเลือดปน ระยะนี้อาการจะรุนแรง กินเวลา 5-9 วัน
- ระยะปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน (immune phase): ไข้เริ่มลด แต่การอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ ยังดำเนินต่อ ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โดยจะปวดศีรษะมาก คอแข็ง ความรู้สึกตัวลดลง อาการมักหายได้เอง ระยะนี้เชื้อถูกขับออกทางปัสสาวะ รวมระยะเวลาของโรคประมาณ 10-14 วัน
ประมาณหนึ่งในสามของผู้ป่วยจะมีไข้กลับมาอีกในสัปดาห์ที่ 2-3 แต่ไม่รุนแรงและจะหายไปเอง
การวินิจฉัยโรค
การวินิจฉัยที่แน่นอนต้องอาศัยการตรวจทางซีโรโลยี ซึ่งมักให้ผลบวกได้ตั้งแต่สัปดาห์แรก การเพาะเชื้อต้องใช้อาหารพิเศษและใช้เวลานาน 1-6 สัปดาห์ โดยในสัปดาห์แรกควรเพาะเชื้อจากเลือด และในสัปดาห์ที่ 2-3 เพาะเชื้อจากปัสสาวะหรือน้ำไขสันหลัง
การรักษา
ยาปฏิชีวนะที่ได้ผลคือ Penicillin แต่ต้องให้ภายใน 5 วันแรกที่มีไข้ มิฉะนั้นจะไม่ได้ผลเลย การรักษาที่สำคัญที่สุดคือการดูแลรักษาทั่วไป ได้แก่ การให้ยาลดไข้ การให้สารน้ำที่เหมาะสม การฟอกเลือดหากมีภาวะไตวาย และรักษาภาวะเลือดออกในอวัยวะต่าง ๆ
การป้องกัน
ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคฉี่หนู วิธีป้องกันที่สำคัญคือหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำท่วมขังด้วยเท้าเปล่า และรักษาความสะอาดบ้านเรือนไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของหนู
สรุป
โรคฉี่หนูเป็นโรคติดเชื้อที่แพร่จากสัตว์ โดยเฉพาะหนู มาสู่คนผ่านทางน้ำหรือสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนปัสสาวะสัตว์ อาการมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงถึงชีวิต โดยเฉพาะถ้ามีการอักเสบที่ตับ ไต หรือปอด การวินิจฉัยทำได้ด้วยการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ผลดีหากให้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และการป้องกันที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำท่วมขังและควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์หนู