กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากไวรัส (Viral myocarditis)

กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยหนึ่งในสาเหตุสำคัญคือการติดเชื้อไวรัส ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งหมด เชื้อไวรัสที่พบบ่อย ได้แก่ Coxsackie virus B และ A, Echovirus, Influenza A virus นอกจากนี้ยังมีเชื้ออื่น ๆ เช่น Mumps, Measles, Rubella, Varicella zoster, Herpes simplex, Epstein-Barr virus (EBV) และ Cytomegalovirus (CMV) ที่สามารถก่อโรคได้เช่นกัน

อาการของโรค

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการเด่นทางระบบหัวใจและหลอดเลือด แต่อาจตรวจพบความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าหัวใจชั่วคราว ซึ่งมักกลับเป็นปกติเองภายใน 2-4 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ในบางรายสามารถพบอาการได้ทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง

อาการเฉียบพลัน: มักเริ่มด้วยไข้ หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะ เหนื่อย เจ็บหน้าอก หากเกิดในเด็กเล็กอาจพบอาการซึม หายใจหอบ เขียว และหากรุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายหรือมีน้ำคั่งในเยื่อหุ้มหัวใจ

อาการเรื้อรัง: พบไม่บ่อย เริ่มด้วยอาการคล้ายไข้หวัด เช่น ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย อาการจะดำเนินต่อเนื่องหลายสัปดาห์ และค่อย ๆ แย่ลงเรื่อย ๆ ในระยะเวลาเป็นเดือนหรือปี จนบางรายกลายเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง

การวินิจฉัย

การวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากไวรัสทำได้ค่อนข้างยาก ต้องอาศัยทั้งอาการทางคลินิกและผลตรวจทางห้องปฏิบัติการร่วมกัน โดยมีเกณฑ์ดังนี้

  1. มีอาการทางคลินิกแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรังที่เข้าได้กับโรค
  2. ตรวจพบเชื้อไวรัสจากอุจจาระ น้ำมูก/เสมหะ หรือจากการตรวจซีโรโลยีในเลือด
  3. มีอย่างน้อยหนึ่งในหลักฐานต่อไปนี้
    • คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติที่สอดคล้องกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
    • ผล Echocardiography พบการเคลื่อนไหวของผนังหัวใจผิดปกติ
    • ตรวจพบเชื้อไวรัสในชิ้นเนื้อกล้ามเนื้อหัวใจ


การรักษา

ยังไม่มียาที่รักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากไวรัสโดยเฉพาะ การรักษาจึงมุ่งเน้นไปที่การพยุงอาการและจัดการภาวะแทรกซ้อน

  • ในระยะเฉียบพลันควรให้นอนพักนาน 1-3 เดือน แม้ว่าไข้จะหายแล้วก็ตาม
  • หากมีภาวะหัวใจล้มเหลว ควรจำกัดน้ำดื่มและให้ยาขับปัสสาวะ
  • ในรายที่เกิดภาวะเยื่อหุ้มหัวใจหนาและเสียความยืดหยุ่น ควรได้รับการรักษาแบบหัวใจล้มเหลวเรื้อรังต่อเนื่อง

พยากรณ์โรค

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีอาการเล็กน้อยมักหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังหรือภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง หรือหัวใจวายเฉียบพลัน พยากรณ์โรคจึงแตกต่างกันขึ้นกับความรุนแรงและการตอบสนองต่อการรักษา

การป้องกัน

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันเฉพาะ แต่สามารถลดความเสี่ยงได้โดย:

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัส
  • รักษาสุขอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักเมื่อมีอาการติดเชื้อไวรัส
  • ฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น ไข้หวัดใหญ่ หัด หัดเยอรมัน อีสุกอีใส

สรุป

กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากไวรัสเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลายชนิด ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายได้เอง แต่บางรายอาจมีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือเสียชีวิต การวินิจฉัยทำได้ยาก ต้องอาศัยทั้งอาการและการตรวจทางห้องปฏิบัติการร่วมกัน ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเฉพาะ การรักษาจึงเป็นแบบประคับประคองและจัดการภาวะแทรกซ้อน การดูแลสุขภาพและการป้องกันการติดเชื้อไวรัสเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคนี้ได้