โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส (Viral meningitis)

โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส หรือที่เคยเรียกว่า aseptic meningitis หรือ lymphocytic meningitis เป็นกลุ่มอาการที่ผู้ป่วยมีไข้ ร่วมกับอาการระคายเคืองเยื่อหุ้มสมอง และเมื่อตรวจน้ำไขสันหลังจะพบเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์หรือโมโนนิวเคลียร์เพิ่มขึ้น แม้ว่า aseptic meningitis อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่เชื้อไวรัสถือเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด

ไวรัสที่สามารถก่อโรคนี้มีหลายชนิด เช่น Coxsackie virus, Echovirus, Mumps virus, Poliovirus, LCM virus, Herpes simplex virus, Varicella zoster virus, Arbovirus, Measles virus และ Rubella virus เป็นต้น

อาการของโรค

โรคมีระยะฟักตัวประมาณ 1–3 สัปดาห์ และมักเริ่มมีอาการอย่างฉับพลัน ได้แก่ ไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ อาเจียน คอแข็ง มีอาการเจ็บหรือตึงที่หลังคอเมื่อก้มศีรษะ อาจพบอาการกระวนกระวาย พูดจาสับสน เดินเซ หรือการเคลื่อนไหวผิดปกติได้ หากเกิดจากเชื้อโปลิโอ ค็อกแซคกี หรือเอโคไวรัส อาจมีอาการปวดท้อง ผื่น และต่อมน้ำเหลืองโตที่คอร่วมด้วย

อาการมักเป็นอยู่ประมาณ 7 วัน แล้วค่อย ๆ ดีขึ้นเอง และส่วนใหญ่หายสนิทภายใน 2 สัปดาห์

การวินิจฉัย

ในเบื้องต้น หากมีอาการครบองค์สามของ aseptic meningitis (ไข้ ปวดหัว คอแข็ง) ก็จะจัดอยู่ในโรคกลุ่มนี้ ส่วนการตรวจหาชนิดของเชื้อไวรัส ต้องอาศัยการเพาะเชื้อจากน้ำไขสันหลัง ซึ่งไวรัสบางชนิดก็ไม่สามารถเพาะเชื้อได้ การจะบอกว่าเป็นไวรัสชนิดไหนอาจต้องอาศัยอาการทางคลินิกอื่น ๆ ที่จำเพาะของโรคนั้น เช่น ต่อมน้ำลายอักเสบ ผื่นงูสวัด ผื่นของหัด เป็นต้น และบ่อยครั้งที่เราไม่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นจากไวรัสชนิดไหน

สิ่งสำคัญคือต้องวินิจฉัยแยกโรคออกจากโรคอื่นที่มีลักษณะใกล้เคียง ได้แก่ วัณโรคเยื่อหุ้มสมอง (น้ำไขสันหลังโปรตีนสูง น้ำตาลต่ำมาก และอาจพบเชื้อวัณโรค), การติดเชื้อรา Cryptococcus (ตรวจพบเชื้อราด้วย India ink), โรคไข้ฉี่หนูที่มีตาเหลืองและไตวาย, โรคซิฟิลิส (ตรวจ FTA-ABS), และมะเร็งระยะแพร่กระจาย



การรักษา

ยังไม่มียาที่ใช้รักษาเฉพาะเจาะจงสำหรับโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส เนื่องจากโรคมักหายได้เอง แนวทางการรักษาจึงเป็นการดูแลตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ดูแลการให้น้ำและสารอาหารที่เพียงพอ รวมถึงเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน

พยากรณ์โรค

โดยทั่วไปโรคนี้ถือว่ามีพยากรณ์โรคดี ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถหายได้เองภายใน 1–2 สัปดาห์ ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงพบได้น้อยมาก และไม่ค่อยทำให้เสียชีวิต ยกเว้นในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

การป้องกัน

การป้องกันทำได้โดยการดูแลสุขอนามัยพื้นฐาน เช่น ล้างมือบ่อย ๆ รับประทานอาหารสะอาด ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ รวมทั้งการฉีดวัคซีนที่เกี่ยวข้อง เช่น วัคซีนหัด คางทูม หัดเยอรมัน โปลิโอ และอีสุกอีใส ซึ่งช่วยลดโอกาสเกิดโรคได้

สรุป

โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัสเป็นโรคที่มักหายได้เอง มีอาการสำคัญคือ ไข้ ปวดศีรษะ คอแข็ง และอาจมีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย แม้จะยังไม่มียารักษาเฉพาะ แต่การวินิจฉัยที่ถูกต้อง การเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน และการดูแลตามอาการมักเพียงพอ การส่งเสริมสุขอนามัยและการได้รับวัคซีนที่เหมาะสม ถือเป็นแนวทางสำคัญในการป้องกันโรคนี้