โรคพยาธิตัวจี๊ด (Gnathostomiasis)

โรคพยาธิตัวจี๊ดเกิดจากพยาธิตัวกลมชื่อ Gnathostoma spinigerum โดยมีโฮสต์ตามธรรมชาติคือสุนัขและแมว ไข่พยาธิจะถูกขับออกมากับอุจจาระของสัตว์เหล่านี้ เมื่อไข่ลงสู่น้ำจะฟักเป็นตัวอ่อนระยะที่หนึ่ง จากนั้นกุ้งไร (cyclops) ซึ่งเป็นโฮสต์กลางชนิดแรกกินเข้าไป แล้วตัวอ่อนจะเจริญเป็นระยะที่สอง หากปลาน้ำจืด กบ งู นก หรือไก่ กินกุ้งไรที่มีตัวอ่อนเข้าไป ตัวอ่อนจะพัฒนาเป็นระยะที่สาม (เป็นระยะติดต่อ) และสร้างซีสต์ในกล้ามเนื้อ หากมนุษย์บริโภคเนื้อสัตว์เหล่านี้แบบดิบหรือสุกไม่ทั่วถึง จะติดเชื้อและพยาธิตัวจี๊ดสามารถไชเข้าสู่อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้

อาการของโรค

ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่พยาธิไชไป ถ้าไปในอวัยวะที่สำคัญ ก็จะเกิดอาการได้มาก ถ้าไปในที่ไม่สำคัญ อาจไม่มีอาการอะไรเลย

  • อาการทางผิวหนัง: มีลักษณะบวมเคลื่อนที่ได้ เช่น เริ่มบวมที่มือแล้วย้ายไปแขน ไหล่ หรือหน้า ก้อนบวมอยู่ได้ 3–10 วัน มีลักษณะตึง อาจปวดจี๊ด ๆ หรือคัน แต่ไม่รุนแรง
  • อาการทางตา: ถ้าอยู่ที่หนังตาจะทำให้ตาบวมมากจนปิด โดยไม่เจ็บ แต่หากเข้าไปในลูกตาอาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงจนตาบอดได้
  • อาการทางหู: พยาธิอาจไชเข้ารูหู ทำลายเยื่อแก้วหู ทำให้ปวดหูมากและสูญเสียการได้ยิน
  • อาการทางระบบประสาท: หากไชเข้าสมองหรือไขสันหลัง จะทำลายเนื้อสมองตามทางที่เคลื่อนที่ ผู้ป่วยอาจปวดศีรษะ มีไข้ คอแข็ง เจ็บแปล๊บตามเส้นประสาท อัมพาต ซึม หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้
  • อาการทางปอด: อาจมีน้ำหรือลมในช่องเยื่อหุ้มปอด ปอดอักเสบ ไอมีไข้ และไอเสมหะปนเลือด บางครั้งอาจไอจนพยาธิหลุดออกมา
  • อาการทางช่องท้อง: พบก้อนเนื้อที่เคลื่อนที่ได้ ก้อนมักไม่เจ็บและคงอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์

การวินิจฉัย

โรคนี้วินิจฉัยตัวพยาธิแน่นอนทำได้ลำบาก นอกจากจะได้ตัวพยาธิจากในเนื้อเยื่อมาวิเคราะห์ชนิดโดยตรง เพราะพยาธิชนิดอื่น เช่น พยาธิปากขอ พยาธิสตรองจีลอยด์ ก็สามารถไชไปตามอวัยวะต่าง ๆ ได้เช่นกัน ประวัติการกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อาการบวมเคลื่อนที่ การพบจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดอีโอวิโนฟิลสูงในเลือด ก็เหมือนกันทุกชนิดของพยาธิ การตรวจทางซีโรโลยี่ชนิด ELISA เฉพาะพยาธิตัวจี๊ดพอจะช่วยได้บ้างเมื่อเกิดอาการได้ระยะหนึ่ง



การรักษา

ปัจจุบันยังไม่มียาที่สามารถฆ่าพยาธิตัวจี๊ดในคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีรักษาที่ใช้คือการผ่าตัดเอาพยาธิออก แต่สามารถทำได้เฉพาะบางตำแหน่งเท่านั้น ดังนั้นการป้องกันจึงสำคัญที่สุด โดยหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ โดยเฉพาะปลาน้ำจืด กบ งู ไก่ เป็ด กุ้ง และหนูที่อาจเป็นโฮสต์กลางของโรคนี้

พยากรณ์โรค

ผู้ป่วยที่มีอาการเพียงบวมเคลื่อนที่ตามผิวหนังมักมีพยากรณ์โรคที่ดีและไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่หากพยาธิไชเข้าสู่อวัยวะสำคัญ เช่น สมอง ตา หรือปอด อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น อัมพาต หรือเสียชีวิตได้ พยากรณ์โรคจึงขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่พยาธิเข้าไปอาศัยและความรวดเร็วในการวินิจฉัยและรักษา

สรุป

โรคพยาธิตัวจี๊ดเป็นโรคที่เกิดจากการบริโภคเนื้อสัตว์ดิบหรือสุกไม่ทั่วถึงที่มีพยาธิระยะติดต่อ พยาธิสามารถไชไปได้หลายอวัยวะ ทำให้เกิดอาการหลากหลายตั้งแต่บวมเคลื่อนที่ทางผิวหนังไปจนถึงอาการรุนแรงทางสมองและระบบประสาท การวินิจฉัยต้องอาศัยประวัติ อาการเฉพาะ และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษาทำได้โดยการผ่าตัดเอาพยาธิออก ซึ่งมีข้อจำกัด ดังนั้นการป้องกันโดยการหลีกเลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากติดเชื้อ พยากรณ์โรคแตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่พยาธิไช โดยกรณีรุนแรงอาจทำให้พิการหรือเสียชีวิตได้