ไข้สมองอักเสบ (Viral encephalitis)

โรคไข้สมองอักเสบเป็นภาวะที่สมองเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส มีไวรัสหลายชนิดที่ก่อโรคนี้ แต่ที่พบบ่อยคือกลุ่ม Togavirus (ประเภท A และ B) ซึ่งมียุงและหมัดเป็นพาหะ โดยไวรัสที่สำคัญที่สุดคือ Japanese encephalitis virus (JEV) เชื้อนี้พบในเลือดของนกป่าและหมู มนุษย์ถือเป็นโฮสต์โดยบังเอิญ เมื่อยุงไปกัดสัตว์ที่มีเชื้อแล้วมากัดคน จะถ่ายทอดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดและทำให้เกิดโรคได้

อาการของโรค

ไข้สมองอักเสบมีระยะฟักตัวประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาการแบ่งได้เป็น 3 ระยะ

  1. ระยะเริ่มต้น: ผู้ป่วยจะมีไข้หนาวสั่นเฉียบพลัน ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ปวดต้นคอและหลัง ปวดเมื่อยตามตัว ระยะนี้อาจนาน 1-10 วัน
  2. ระยะอาการทางสมอง: ปวดศีรษะรุนแรง อาเจียนพุ่ง มีอาการชักซ้ำ ๆ ระดับความรู้สึกตัวลดลง อาจเกิดอัมพาตครึ่งซีก ตรวจร่างกายมักพบสัญญาณเยื่อหุ้มสมองอักเสบ การถ่ายภาพสมองอาจพบภาวะสมองบวม ระยะนี้กินเวลา 3-7 วัน
  3. ระยะฟื้น: ไข้ลดลง แต่ยังมีความผิดปกติของสติสัมปชัญญะ บางรายมีอาการทางจิต เช่น เอะอะโวยวาย ประสาทหลอน จำญาติไม่ได้ บางรายมีอาการสั่นของมือ เท้า หรือศีรษะ สีหน้าเรียบเฉย การพูดช้าไม่ชัด ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน และอาจหลงเหลือความเสื่อมของสมรรถภาพสมอง

การวินิจฉัย

การวินิจฉัยโรคทำได้จากอาการทางคลินิกที่ค่อนข้างจำเพาะ คลื่นไฟฟ้าสมองมักพบการเปลี่ยนแปลงคือจังหวะคลื่นช้าลงเหลือ 3-5 ครั้งต่อวินาที และความสูงของคลื่นลดลง

การยืนยันโรคจำเป็นต้องตรวจ น้ำไขสันหลัง โดยก่อนการเจาะควรตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองเพื่อความปลอดภัย น้ำไขสันหลังของผู้ป่วยมักมีลักษณะดังนี้:

  • แรงดันสูง
  • จำนวนเซลล์ 100-1,000 ตัว/ลบ.มม. ส่วนใหญ่เป็นลิมโฟไซต์
  • โปรตีนสูงกว่าปกติเล็กน้อย
  • ระดับน้ำตาลปกติ

ตัวอย่างน้ำไขสันหลังควรตรวจ IgM antibody ภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนการตรวจเลือดหาแอนติบอดีควรทำอย่างน้อย 2 ครั้ง ห่างกัน 1-4 สัปดาห์ เพื่อติดตามการเพิ่มขึ้นของระดับแอนติบอดี



การรักษา

ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสที่ใช้ได้ผลโดยตรงสำหรับไข้สมองอักเสบ การรักษามุ่งเน้นไปที่การประคับประคอง ได้แก่:

  • ให้ยากันชักในรายที่มีอาการชัก
  • ให้ยานอนหลับหรือยาคลายกังวลในผู้ป่วยที่กระสับกระส่ายหรือมีอาการทางจิต
  • ดูแลเรื่องโภชนาการ การขับถ่าย และการทำความสะอาดร่างกายในรายที่หมดสติ
  • ในระยะฟื้นควรทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและสมอง

พยากรณ์โรค

โรคไข้สมองอักเสบมีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ผู้ที่รอดชีวิตมักมีโอกาสเกิดความพิการทางสมองหรือระบบประสาทหลงเหลือ เช่น การพูดช้า ความจำบกพร่อง หรือการเคลื่อนไหวผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตระยะยาว

การป้องกัน

การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจแปนนีส (Japanese encephalitis vaccine) โดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงมาตรการป้องกันยุงกัด เช่น การใช้มุ้ง การทายากันยุง และการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

สรุป

ไข้สมองอักเสบจากไวรัสเป็นโรครุนแรงที่มีการติดต่อผ่านพาหะคือยุง เชื้อที่พบบ่อยคือ Japanese encephalitis virus โรคนี้แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเริ่มต้น ระยะอาการทางสมอง และระยะฟื้นฟู การวินิจฉัยอาศัยอาการทางคลินิก ร่วมกับการตรวจน้ำไขสันหลังและแอนติบอดี ปัจจุบันยังไม่มียารักษาจำเพาะ การรักษาเน้นการดูแลตามอาการ ผู้ป่วยจำนวนมากอาจเสียชีวิตหรือมีความพิการหลงเหลือ การป้องกันโดยการฉีดวัคซีนและป้องกันยุงกัดจึงมีความสำคัญมากที่สุด