โรคเมลิออยโดสิส (Melioidosis)

โรคเมลิออยโดสิสเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่สามารถทำให้เกิดการอักเสบของปอดได้ทั้งในลักษณะเรื้อรังและเฉียบพลันรุนแรง สาเหตุเกิดจากเชื้อ Pseudomonas pseudomallei ซึ่งพบมากในดินและน้ำ โดยเฉพาะในภาคอีสานของประเทศไทย การติดต่อเกิดขึ้นได้จากการหายใจเอาเชื้อเข้าไป หรือการมีบาดแผลสัมผัสกับดินและน้ำ พบว่าประมาณร้อยละ 80 ของผู้ป่วยมักมีโรคประจำตัวหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องร่วมด้วย เช่น เบาหวาน มะเร็ง หรือโรคเรื้อรังอื่น ๆ

อาการของโรค

อาการทางคลินิกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

  1. เมลิออยโดสิสแบบเรื้อรัง: ผู้ป่วยจะมีไข้เรื้อรัง ไอมีเสมหะ (บางครั้งมีเลือดปน) อ่อนเพลีย น้ำหนักลด เบื่ออาหาร เหนื่อยหอบ อาการจะคล้ายกับวัณโรคปอดมาก บางรายอาจมีแผลเรื้อรังที่ผิวหนัง ฝีในปอด หรือมีต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย
  2. เมลิออยโดสิสแบบเฉียบพลันรุนแรง: ผู้ป่วยจะมีไข้สูงฉับพลัน ไอ หายใจหอบ ความดันตก อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว เกิดจากเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด (septicemia) ผู้ป่วยบางรายอาจเริ่มจากอาการเรื้อรังมาก่อนแล้วลุกลามเป็นภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ในขณะที่บางรายอาจเกิดอาการเฉียบพลันได้ทันที โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีปอดบวมในภาคอีสานและอาการทรุดลงอย่างรุนแรงภายใน 1-2 วัน ควรนึกถึงโรคเมลิออยโดสิสเป็นอันดับแรก

การวินิจฉัยโรค


โรคเมลิออยโดสิสแบบเรื้อรังมักทำให้ปอดอักเสบที่กลีบบนเหมือนวัณโรค และบางครั้งพบโพรงหนองเหมือนการติดเชื้อรา ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีไข้ ไอ น้ำหนัดลดมาเป็นเดือน ๆ แล้วเอ็กซเรย์ปอดคล้ายวัณโรค แต่ตรวจเชื้อวัณโรคไม่พบ ควรตรวจย้อมกรัมหรือเพาะเชื้อเพื่อยืนยันการติดเชื้อ Pseudomonas pseudomallei การวินิจฉัยที่แน่ชัดอาศัยการเพาะเชื้อจากเสมหะหรือจากบาดแผล

ในรายที่เป็นแบบเฉียบพลันรุนแรง มักวินิจฉัยได้ยากและล่าช้า เพราะการเพาะเชื้อในเลือดใช้เวลานาน 3–7 วัน และมักเก็บเสมหะไม่ได้เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ดังนั้นผู้ป่วยที่มีปอดบวมเฉียบพลันรุนแรงและอาการทรุดเร็ว ควรนึกถึงโรคเมลิออยโดสิสไว้เสมอ



การรักษา

เชื้อ Pseudomonas pseudomallei ไวต่อยาบางชนิดเท่านั้น และโรคมีแนวโน้มกลับเป็นซ้ำได้สูง การรักษาจึงต้องใช้เวลานาน 3–6 เดือน โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่

  • ระยะเริ่มต้น (10–14 วันแรก): ใช้ยาฉีด Ceftazidime ทุก 6 ชั่วโมง หรือ Meropenem ทุก 8 ชั่วโมง
  • ระยะต่อเนื่อง (3–6 เดือน): เมื่ออาการดีขึ้นให้รับประทาน Co-trimoxazole หรือ Doxycycline ต่อเนื่อง

การตอบสนองต่อยามักช้า และกว่าผลเพาะเชื้อจากเสมหะจะเป็นลบอาจต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน

การป้องกัน

ในพื้นที่ที่โรคเมลิออยโดสิสเป็นโรคประจำถิ่น เช่น ภาคอีสาน ควรป้องกันการสัมผัสดินและน้ำโดยตรง เกษตรกรควรสวมรองเท้าบู๊ตและถุงมือขณะทำนาหรือทำงานในพื้นที่น้ำท่วม เนื่องจากโรคมักพบเพิ่มขึ้นหลังน้ำท่วมหรือพายุ นอกจากนี้ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน โรคไตวายเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรัง และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินหรือน้ำตามธรรมชาติโดยตรง

สรุป

โรคเมลิออยโดสิสเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อยในภาคอีสานของประเทศไทย มีความรุนแรงและอาจทำให้เสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที อาการแบ่งเป็นแบบเรื้อรังและเฉียบพลันรุนแรง ซึ่งอาจเลียนแบบวัณโรคหรือปอดบวมชนิดอื่น การวินิจฉัยต้องอาศัยการเพาะเชื้อเพื่อยืนยัน และการรักษาต้องใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานเพื่อลดการกลับเป็นซ้ำ การป้องกันทำได้โดยการลดการสัมผัสดินและน้ำโดยตรง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง ความรู้ความเข้าใจและการเฝ้าระวังโรคนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลดอัตราการเจ็บป่วยและการเสียชีวิต