โรคบรูเซลโลสิส (Brucellosis)
โรคบรูเซลโลสิสเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในสกุล บรูเซลลา (Brucella) ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อโรคในสัตว์เลี้ยง เช่น แพะ แกะ วัว ควาย หมู และสุนัข มนุษย์สามารถติดเชื้อได้ 4 ทางหลัก ได้แก่
- ผ่านผิวหนังที่มีบาดแผล
- ทางการหายใจ
- ทางตา
- การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ
สามช่องทางแรกมักพบในผู้ที่ทำงานใกล้ชิดสัตว์ เช่น คนเลี้ยงสัตว์หรือสัตวแพทย์ ส่วนคนทั่วไปมักติดเชื้อจากการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะนมแพะสด เนยสดที่ทำจากนมแพะ หรือนมวัวสดที่ไม่ได้ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์
พยาธิสภาพ
เมื่อเชื้อบรูเซลลาเข้าสู่ร่างกาย จะเริ่มเจริญเติบโตที่ต่อมน้ำเหลือง ทำให้ต่อมน้ำเหลืองโต จากนั้นบางส่วนเข้าสู่กระแสเลือดและถูกเม็ดเลือดขาวลำเลียงไปยังตับ ม้าม ไขกระดูก และอวัยวะต่าง ๆ จนเกิดฝีขนาดเล็กกระจายตามอวัยวะเหล่านี้
อาการของโรค
โรคบรูเซลโลสิสมีระยะฟักตัวที่หลากหลาย ตั้งแต่ 2–3 สัปดาห์ไปจนถึง 2–3 ปี อาการเริ่มต้นคือไข้หนาวสั่นเป็น ๆ หาย ๆ คล้ายโรคมาลาเรีย แต่ช่วงที่มีไข้มักยาวนานกว่า (4–5 วัน) แล้วค่อยลดลง และกลับมาเป็นใหม่ทุก 3–4 วัน อาการร่วมที่พบบ่อย ได้แก่:
- อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- ปวดศีรษะ ปวดหลัง ปวดข้อ
- ต่อมน้ำเหลืองโต โดยเฉพาะที่รักแร้และคอ (นุ่ม ไม่เจ็บ)
- ตับและม้ามโต
ผู้ป่วยมักมีอาการปวดหลังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หากเคาะที่กระดูกสันหลังจะเจ็บมาก อาการทั้งหมดจะค่อย ๆ พัฒนาขึ้นและดำเนินไปเป็นเดือน
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย ได้แก่:
- กระดูกสันหลังอักเสบ เริ่มที่หมอนรองกระดูก ก่อนลุกลามทำลายกระดูกจนยุบ อาจเกิดฝีมากดเบียดไขสันหลัง ทำให้ปวดหลังรุนแรง ลุกไม่ได้ มักเกิดที่กระดูกสันหลังส่วนเอว ต้องแยกจากวัณโรคกระดูกสันหลัง และในเด็กต้องแยกจากโปลิโอ
- อาการทางจิต เช่น ซึมเศร้า เพ้อ ไม่รู้จักบุคคล สถานที่ หรือเวลา บางรายมีอาการหลงผิด โดยที่ตรวจร่างกายไม่พบความผิดปกติทางระบบประสาท จึงอาจถูกวินิจฉัยผิดว่าเป็นโรคจิต
- ภาวะแทรกซ้อนอื่นที่พบได้น้อย เช่น ฝีในปอด เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ แผลกระจกตา จอตาอักเสบ ประสาทตาฝ่อ และลิ่มเลือดอุดตัน
การวินิจฉัย
โรคบรูเซลโลสิสวินิจฉัยได้ยาก การเพาะเชื้อจากเลือดหรือปัสสาวะต้องใช้น้ำเลี้ยงเชื้อพิเศษและใช้เวลานานถึง 8 สัปดาห์ ส่วนการตรวจทางซีโรโลยีอาจแปลผลได้ยากเพราะมี cross-reaction กับโรคอื่นมาก การตรวจชิ้นเนื้อก็มักพบเพียงแกรนูโลมา (granuloma) ซึ่งคล้ายกับวัณโรคหรือซาร์คอยโดสิส (sarcoidosis)
แพทย์ควรสงสัยโรคนี้ในผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายวัณโรค แต่ตรวจชิ้นเนื้อไม่พบเชื้อวัณโรค หรือเมื่อให้ยาวัณโรคนานกว่า 2 เดือนแล้วอาการไม่ดีขึ้น
การรักษา
การรักษามาตรฐานคือการใช้ยาปฏิชีวนะ 2 ขนานร่วมกัน ได้แก่:
- Tetracycline รับประทานต่อเนื่อง
- Streptomycin ฉีดในช่วง 3 สัปดาห์แรก
จากนั้นให้ผู้ป่วยรับประทาน Tetracycline ต่อเนื่องจนจนครบ 3 เดือนเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
พยากรณ์โรค
ผู้ป่วยบรูเซลโลสิสที่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องมักมีพยากรณ์โรคที่ดี สามารถหายได้ แต่อาการอาจใช้เวลานานหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนกว่าจะดีขึ้น หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โรคอาจกลายเป็นเรื้อรัง เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น กระดูกสันหลังอักเสบหรืออาการทางระบบประสาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก
การป้องกัน
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคบรูเซลโลสิสสำหรับคน แต่มีวัคซีนที่ใช้ในสัตว์เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรค ดังนั้นการป้องกันจึงควรเน้นที่:
- กำจัดและควบคุมเชื้อในสัตว์เลี้ยง
- ผู้ที่ทำงานใกล้ชิดสัตว์ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ติดโรคโดยตรง
- ประชาชนทั่วไปควรดื่มนมที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์เท่านั้น และหลีกเลี่ยงการบริโภคเนยสดที่ทำจากนมแพะ
สรุป
โรคบรูเซลโลสิสเป็นโรคติดเชื้อจากสัตว์ที่เกิดจากเชื้อบรูเซลลา ติดต่อสู่คนได้หลายทาง โดยเฉพาะการบริโภคนมและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ อาการสำคัญคือไข้เป็น ๆ หาย ๆ ร่วมกับอาการปวดเมื่อยและตับม้ามโต ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือกระดูกสันหลังอักเสบและอาการทางจิต การวินิจฉัยทำได้ยากและต้องอาศัยประวัติร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษาต้องใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกันอย่างน้อย 3 เดือน การป้องกันที่ดีที่สุดคือการควบคุมโรคในสัตว์และการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย หากรักษาทันเวลา พยากรณ์โรคมักดี แต่หากปล่อยทิ้งไว้มีโอกาสกลายเป็นโรคเรื้อรังและเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้