โรคพยาธิตืดหมู (Cysticercosis)
โรคพยาธิตืดหมูเกิดจากพยาธิตัวตืดชื่อ Taenia solium โดยมีหมูเป็นโฮสต์กลาง ส่วนคนเป็นโฮสต์เฉพาะ ตัวแก่ของพยาธิจะอาศัยอยู่ในลำไส้ของคน เมื่อพยาธิปล่อยปล้องแก่ที่มีไข่นับพันฟองออกมากับอุจจาระ หมูที่กินไข่หรือปล้องเหล่านี้เข้าไป ตัวอ่อนจะเจริญและไชทะลุผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดและน้ำเหลือง ก่อนจะไปฝังตัวในกล้ามเนื้อ และพัฒนาเป็นซิสติเซอร์คัส (Cysticercus) ภายใน 60 วัน
เนื้อหมูในระยะนี้เรียกว่า “หมูสาคู” เพราะเห็นเป็นเม็ดใสคล้ายเม็ดสาคูอยู่ในกล้ามเนื้อ
เมื่อคนกินเนื้อหมูสุก ๆ ดิบ ๆ ซิสติเซอร์คัสจะเข้าสู่ลำไส้เล็กและเจริญเป็นพยาธิตัวแก่ แต่หากคนกิน ไข่พยาธิ โดยตรง เช่น จากผัก ผลไม้ที่ปนเปื้อน หรือจากการอาเจียนขย้อนปล้องแก่แล้วกลืนลงไปอีกครั้ง คนจะทำหน้าที่เป็นโฮสต์กลางแทนหมู ตัวอ่อนจะไชทะลุผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดและฝังตัวตามกล้ามเนื้อหรืออวัยวะต่าง ๆ เกิดเป็นซิสติเซอร์คัส ซึ่งสามารถเห็นในภาพเอกซเรย์เป็นลักษณะคล้ายเม็ดข้าวสารในกล้ามเนื้อ
อาการของโรค
- เมื่อกินเนื้อหมูสุก ๆ ดิบ ๆ จะได้รับซิสติเซอร์คัสที่ไปเจริญเป็นตัวแก่ในลำไส้ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้อาเจียน น้ำหนักลด ผอมลงแม้กินได้มาก เพราะตัวตืดแย่งอาหารไป อาจเกิดภาวะลำไส้อุดตันจากพยาธิที่รวมตัวกันเป็นก้อน หรือเกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบหากหัวพยาธิไชทะลุลำไส้
- เมื่อกินไข่พยาธิ จะทำให้ตัวอ่อนเจริญเป็นซิสติเซอร์คัสตามอวัยวะต่าง ๆ อาการขึ้นกับตำแหน่ง เช่น ในลูกตา ทำให้ปวดตา ตามัว หรือถึงขั้นตาบอดได้ หากอยู่ในสมองอาจทำให้เกิดอาการชักเฉพาะที่หรืออาการทางระบบประสาทอื่น ๆ แต่ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สำคัญอาจไม่แสดงอาการ ซิสต์ที่ตายไปนาน ๆ จะมีหินปูนมาจับ สามารถเห็นได้ชัดเจนในเอกซเรย์
การวินิจฉัย
สามารถวินิจฉัยโรคได้ 3 วิธี
- ตรวจอุจจาระพบไข่หรือปล้องของพยาธิตืดหมู
- พบลักษณะซิสติเซอร์คัสในภาพเอกซเรย์
- ตรวจพบพยาธิตัวอ่อนในชิ้นเนื้อที่ผ่าตัดออกมา
การตรวจทางซีโรโลยีมักใช้เพื่อยืนยันในกรณีที่ภาพเอกซเรย์พบสิ่งที่สงสัยว่าเป็นซิสติเซอร์คัส
การรักษา
ยาฆ่าพยาธิตืดหมู (รวมทั้งพยาธิตืดวัว) ที่ได้ผลดี สามารถฆ่าได้ทุกระยะของพยาธิ คือ Praziquantel และ Albendazole โดยอาจรับประทาน Praziquantel ขนาด 50 mg/kg/วัน แบ่งวันละ 3 เวลา หรือรับประทาน Albendazole ขนาด 15 mg/kg/วัน แบ่งวันละ 2 เวลา เป็นเวลานาน 15 วัน
หากมีซิสติเซอร์คัสในสมอง ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเมื่อพยาธิในซิสต์ตาย จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบรุนแรงจนผู้ป่วยชักหรือหมดสติได้ แพทย์จึงมักให้ Prednisolone และยากันชักร่วมด้วย
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการทางระบบประสาท การรักษามักมุ่งเน้นบรรเทาตามอาการ การผ่าตัดเอาซิสต์ออกทั้งหมดเป็นไปได้ยากและเสี่ยงสูง จึงมักปล่อยให้พยาธิตายในร่างกายเองซึ่งปลอดภัยกว่า
พยากรณ์โรค
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาถ่ายพยาธิได้ดี โดยเฉพาะในกรณีที่ซิสติเซอร์คัสอยู่ในกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง อย่างไรก็ตาม หากพยาธิไปฝังตัวในสมองหรือตา พยากรณ์โรคจะรุนแรงขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดอาการชักเรื้อรัง ความพิการทางประสาท หรือการสูญเสียการมองเห็นได้ แม้ได้รับการรักษาแล้ว ผู้ป่วยบางรายอาจยังมีความผิดปกติถาวร
วิธีป้องกัน
การป้องกันโรคนี้ทำได้โดยการ:
- รับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกทุกครั้ง
- ล้างผัก ผลไม้ และมือให้สะอาดก่อนรับประทาน
- ถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ ไม่ใช้อุจจาระสดเป็นปุ๋ย
สรุป
โรคพยาธิตืดหมู (Cysticercosis) เป็นโรคที่เกิดจากพยาธิ Taenia solium ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งจากการกินเนื้อหมูสุก ๆ ดิบ ๆ หรือการกินไข่พยาธิที่ปนเปื้อนอาหาร ผู้ป่วยอาจมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรงจนถึงขั้นอันตราย โดยเฉพาะหากพยาธิไปฝังในสมองหรือตา การรักษาด้วยยาฆ่าพยาธิได้ผลดี แต่บางกรณีอาจต้องรักษาตามอาการร่วมด้วย การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรักษาสุขอนามัยอาหารและการขับถ่ายอย่างถูกวิธี