โรคมดลูกอักเสบ (Endometritis)

โรคมดลูกอักเสบโดยทั่วไปไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ แต่เมื่อเกิดแล้วมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตและเป็นหมันได้ สาเหตุแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ เกิดจากการลุกลามของโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และเกิดจากการติดเชื้อหลังการคลอด ซึ่งรวมถึงการทำแท้งที่ไม่ถูกวิธี การแท้งบุตรที่ตัวอ่อนออกมาไม่หมด และการมีชิ้นส่วนของรกค้างอยู่หลังการคลอด เชื้อที่พบจากการติดโรคทางเพศสัมพันธ์มักเป็นเชื้อโกโนเรียและคลาไมเดีย ส่วนเชื้อที่ทำให้มดลูกอักเสบหลังการคลอดมักเป็นเชื้อที่อยู่ตามผิวหนัง ในช่องท้อง และบริเวณช่องคลอด ดังนั้น แพทย์จำเป็นต้องทราบประวัติการทำแท้งและการคลอด เพื่อจะสามารถเลือกยาปฏิชีวนะขั้นต้นให้ได้อย่างเหมาะสม ก่อนที่ผลตรวจเชื้อจะออกในอีก 72 ชั่วโมง

อาการของโรค

ในทางคลีนิค อาการของมดลูกอักเสบแบ่งได้เป็น 2 แบบ

  1. แบบเฉียบพลัน
  2. ผู้ป่วยมักมีอาการตกขาวและปัสสาวะแสบขัดมาก่อน ซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ แต่อาจไม่ใส่ใจหรืออายจนไม่กล้าพบแพทย์ อีกกลุ่มหนึ่งคือผู้ป่วยที่ลักลอบทำแท้งแล้วเกิดการติดเชื้อในโพรงมดลูก ภายในเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ เมื่อมดลูกเกิดการอักเสบแล้ว จะทำให้มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดท้องน้อย ตกขาวออกมาเป็นหนอง มีกลิ่นเหม็น หรือออกมาคล้ายระดูแต่มีกลิ่นเหม็นมาก เมื่อเกิดอาการเหล่านี้แล้วต้องรีบไปพบแพทย์ เพราะทิ้งไว้อีกเพียง 1-2 วันเชื้อจะลุกลามทั่วไปหมด เกิดเป็นโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบซึ่งส่วนใหญ่แม้จะหายก็มีแผลเป็น ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก ตั้งครรภ์นอกมดลูกง่าย บางรายอาจมีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง และเจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง ซึ่งอาจเกิดปัญหาในชีวิตสมรสตามมา

    ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงของมดลูกอักเสบแบบเฉียบพลันคือภาวะโลหิตเป็นพิษ ผู้ป่วยจะช็อค มือเท้าเย็น มีโอกาสเสียชีวิตได้สูง

  3. แบบเรื้อรัง
  4. โรคมดลูกอักเสบแบบเรื้อรังอาจเกิดจากการติดเชื้อที่ไม่รุนแรง เช่น คลาไมเดีย วัณโรค Gardnerella vaginalis หรือการมีสิ่งระคายเคืองคาอยู่ในโพรงมดลูก เช่น การใส่ห่วงคุมกำเนิดเป็นเวลานาน การมีเนื้องอกหรือติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เป็นต้น อาการของมดลูกอักเสบแบบเรื้อรังจะไม่รุนแรงเท่าแบบเฉียบพลัน มีเพียงอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ เจ็บท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์ แท้งบ่อย หรือมีบุตรยาก

การวินิจฉัยโรค

โรคมดลูกอักเสบวินิจฉัยจากการตรวจภายใน การย้อมและเพาะเชื้อจากหนอง และการทำอัลตราซาวน์ดูภายในโพรงมดลูกและอวัยวะข้างเคียง จะเห็นว่าแนวทางการวินิจฉัยต่างจากโรคหนองใน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และกรวยไตอักเสบโดยสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้ ผู้ป่วยจึงควรให้ประวัติทั้งหมดแก่แพทย์ตามความเป็นจริง การปิดบังประวัติการมีเพศสัมพันธ์หรือประวัติการทำแท้งอาจส่งผลให้การวินิจฉัยโรคล่าช้า และมีผลต่อการรักษาในภายหลัง

หากเป็นการอักเสบเรื้อรังต้องทำการตรวจชิ้นเนื้อภายในโพรงมดลูกด้วย



การรักษา

ในรายเฉียบพลัน มักต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลโดยการให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ หากผู้ป่วยใส่ห่วงคุมกำเนิด ควรถอดออกและเปลี่ยนเป็นวิธีคุมกำเนิดอื่น หากมีรกหรือตัวอ่อนค้างอยู่ ต้องทำการขูดมดลูก สำหรับรายเรื้อรังจะรักษาตามสาเหตุ เช่น การกำจัดสิ่งแปลกปลอม หรือการให้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม

ผู้ป่วยที่เพิ่งหายจากโรคควรงดการร่วมเพศ หรือสวนล้างช่องคลอด เป็นเวลานาน 4-6 สัปดาห์ จนกว่ามดลูกจะฟื้นตัวแข็งแรงดี

โรคมดลูกอักเสบที่เกิดจากเชื้อโกโนเรีย (โรคหนองใน) ต้องรักษาสามีพร้อมกันไปด้วย มิเช่นนั้นจะทำให้ติดเชื้อจากสามีซ้ำ และเกิดอาการกำเริบได้อีก

พยากรณ์โรค

หากตรวจพบและรักษาได้เร็ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถหายขาดได้โดยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน แต่หากการวินิจฉัยล่าช้าหรือไม่ได้รับการรักษา อาจเกิดโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ ภาวะมีบุตรยาก ตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือภาวะโลหิตเป็นพิษที่มีอันตรายถึงชีวิตได้

การป้องกัน

แนวทางการป้องกันโรคมดลูกอักเสบคล้ายการป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์โดยทั่วไป คือ ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และให้คู่นอนหรือสามีใช้ถุงยางอนามัยเสมอเวลามีเพศสัมพันธ์

สรุป

โรคมดลูกอักเสบเป็นภาวะติดเชื้อที่อาจรุนแรง หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะมีบุตรยากหรือเสียชีวิตได้ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการติดเชื้อหลังการคลอดหรือการแท้ง การวินิจฉัยต้องอาศัยการตรวจภายในและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษาจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะและดูแลตามสาเหตุ การป้องกันทำได้โดยการมีพฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัยและใส่ใจการดูแลสุขภาพอนามัยสตรี