ไข้ปัสสาวะดำ (Black water fever)
ไข้ปัสสาวะดำเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญและรุนแรงของโรคมาลาเรียชนิดฟาลซิปารัม (Plasmodium falciparum) เกิดจากการแตกสลายของเม็ดเลือดแดงอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยมักสัมพันธ์กับปฏิกิริยาแอนติเจน-แอนติบอดีที่ถูกกระตุ้นด้วยยาควีนิน (Quinine) โดยเฉพาะในผู้ที่ใช้ยาควีนินเพื่อป้องกันหรือรักษามาลาเรียอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งสามารถตรวจพบ ผลบวกจาก Coombs' test ได้
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ภาวะนี้อาจนำไปสู่ไตวายเฉียบพลัน ภาวะช็อค และเสียชีวิตได้
พยาธิสภาพ
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงใน 3 ระบบสำคัญ ได้แก่ ระบบไหลเวียนโลหิต ไต และตับ
- ระบบไหลเวียนโลหิต: เม็ดเลือดแดงแตกสลายเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะต่าง ๆ ได้เพียงพอ ส่งผลให้เกิดภาวะช็อค ความดันโลหิตต่ำ
- ระบบไต: เกิดภาวะขาดเลือดบริเวณคอร์เทกซ์ ส่งผลให้อัตราการกรองของไตลดลง ปัสสาวะออกน้อยลง และอาจนำไปสู่ไตวายเฉียบพลัน
- ระบบตับ: มีเลือดคั่ง เซลล์ตับเสื่อมและตายอย่างรวดเร็ว ทำให้ตับโตและผู้ป่วยมีอาการตัวเหลืองอย่างชัดเจน
อาการของโรค
ผู้ป่วยมักมีประวัติอยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีมาลาเรียชุกชุมเป็นเวลาหลายเดือน
มีประวัติการเป็นมาลาเรียซ้ำซาก และเคยใช้ยาควีนิน
อาการสำคัญ ได้แก่ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะสีดำ
และมีภาวะซีดลงอย่างรวดเร็ว หากปล่อยทิ้งไว้ 1-2 วัน อาจมีอาการปวดท้อง ตับและม้ามโต ปัสสาวะลดลง ตัวบวม ซีด เหลือง และระดับความรู้สึกตัวลดลง
การวินิจฉัยโรค
การตรวจหาเชื้อมาลาเรียในเม็ดเลือดพบได้เพียงประมาณ 50% เนื่องจากมีการแตกสลายของเม็ดเลือดแดงภายในหลอดเลือดจำนวนมาก ดังนั้น การวินิจฉัยต้องอาศัยประวัติการอยู่อาศัยในพื้นที่ระบาดของมาลาเรีย และการใช้ยาควีนินร่วมด้วย นอกจากนี้ต้องแยกโรคจากภาวะอื่นที่ทำให้เกิดปัสสาวะดำ ได้แก่
ภาวะ/โรค |
ลักษณะสำคัญ |
การตรวจเพิ่มเติม |
พร่องเอนไซม์ G6PD |
เม็ดเลือดแดงแตกเมื่อได้รับยาบางชนิด เช่น ควีนิน ไพรมาควิน |
Coombs' test ลบ, ตรวจเอนไซม์ G6PD ต่ำ |
Paroxysmal cold haemoglobinuria |
ปัสสาวะดำเวลาอากาศเย็น, ไม่มีไข้นำ |
สัมพันธ์กับซิฟิลิสหรือความผิดปกติแต่กำเนิด |
Paroxysmal nocturnal haemoglobinuria () |
ปัสสาวะดำตอนกลางคืนหรือตอนเช้า, ค่อย ๆ จางลงช่วงกลางวัน |
ตรวจพบความผิดปกติของยีน PIG-A (หายไป ทำให้เม็ดเลือดแตกง่าย) |
March haemoglobinuria |
พบในผู้ที่เดินทางไกลหรือใช้แรงมาก เช่น ทหาร |
อาการสัมพันธ์กับการออกแรง ไม่พบเชื้อ |
Congenital spherocytosis |
เม็ดเลือดแดงรูปร่างผิดปกติ แตกง่าย, ปัสสาวะดำเป็นครั้งคราว |
ตรวจพบ spherocyte ใน smear เลือด |
การให้เลือดผิดหมู่ |
เม็ดเลือดแดงแตกทันทีหลังรับเลือด |
ประวัติการให้เลือด, Coombs' test บวก |
Malarial haemoglobinuria |
ปัสสาวะดำสัมพันธ์กับการติดเชื้อมาลาเรียจำนวนมาก |
ตรวจเลือดพบเชื้อมาลาเรียจำนวนมาก, Coombs' test ลบ |
การรักษา
ผู้ป่วยที่ใช้ยาควีนินแล้วพบว่ามีปัสสาวะสีดำคล้ายน้ำโคล่า ควรงดยาทันทีและรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยที่มีภาวะซีดรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการถ่ายเลือด พร้อมทั้งควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ ควรได้รับยาต้านปฏิกิริยาแอนติเจน-แอนติบอดี และติดตามตรวจหาเชื้อมาลาเรียทุกวัน
การป้องกัน
หลีกเลื่ยงการเดินทางเข้าไปในแดนมาลาเรีย ถ้าจำเป็นไม่ควรใช้ยาควีนินเป็นยาป้องกัน และควรป้องกันการถูกยุงกัดเป็นหลัก
สรุป
ไข้ปัสสาวะดำเป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรงของมาลาเรียชนิดฟาลซิปารัม
ซึ่งสัมพันธ์กับการใช้ยาควีนิน ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกอย่างเฉียบพลันและรุนแรง ผู้ป่วยจะมีปัสสาวะสีดำร่วมกับอาการซีด เหลือง และไตวายเฉียบพลัน การวินิจฉัยอาศัยทั้งประวัติ อาการ และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษาต้องรีบงดควีนิน ให้การดูแลในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด และอาจต้องถ่ายเลือดร่วมด้วย การป้องกันที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการใช้ยาควีนินเป็นยาป้องกัน และการป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด