โรคกระดูกติดเชื้อ (Osteomyelitis)

โรคนี้เป็นการอักเสบของกระดูกจากการติดเชื้อ ปกติกระดูกจะต้านทานการติดเชื้อได้ดี โรคนี้จึงพบได้ไม่บ่อย แต่เมื่อพบแสดงว่าเชื้อมีความรุนแรงและยากต่อการรักษา เชื้อส่วนใหญ่เป็นพวกแบคทีเรีย แต่อาจเป็นเชื้อราหรือเชื้อวัณโรคก็ได้ เชื้อเหล่านี้เข้าสู่กระดูกได้ 3 ทาง คือ

  1. ทางตรง: จากอุบัติเหตุที่ทำให้กระดูกหักและมีแผลเปิด หรือจากการผ่าตัดกระดูก
  2. ทางเนื้อเยื่อข้างเคียง: จากการลุกลามของการติดเชื้อที่ผิวหนัง เนื้อเยื่อ หรือแผลไฟไหม้
  3. ทางกระแสเลือด: เชื้อมาจากแหล่งติดเชื้อที่อวัยวะอื่นแล้วเข้าสู่กระแสเลือด ก่อนแพร่กระจายไปยังกระดูก รวมถึงกรณีมีสายสวนหลอดเลือดดำ หรือการใช้ยาเสพติดชนิดฉีด

โรคกระดูกติดเชื้อพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงประมาณ 2 เท่า และพบได้มากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี (ประมาณ 20%) รวมถึงในกลุ่มอายุ 5-20 ปี (อีก 20%) ปัจจัยเสี่ยงที่เอื้อให้เกิดโรคหลังจากเชื้อเข้าสู่กระดูกแล้ว ได้แก่ โรคธาลัสซีเมีย เบาหวาน การดื่มสุรา โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และการใช้ยากดภูมิคุ้มกัน

อาการของโรค

การติดเชื้อจากการบาดเจ็บ :มักเกิดตามหลังบาดแผลหรือการผ่าตัดกระดูกประมาณ 1 เดือน แผลหายช้ากว่าปกติ มีอาการปวดแม้ไม่ได้ใช้งาน ไม่สามารถลงน้ำหนักหรือใช้อวัยวะได้ตามปกติ ร่วมกับไข้และอ่อนเพลียเป็น ๆ หาย ๆ ควรเอกซเรย์กระดูกเพื่อติดตาม

การติดเชื้อจากกระแสเลือด: มักพบในผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง เด็กเล็กมักเป็นที่กระดูกยาว เช่น ขา แขน และหมอนรองกระดูกสันหลัง ส่วนผู้ใหญ่มักพบที่กระดูกสันหลังและกระดูกรูปแบน เช่น กระดูกเชิงกราน ซี่โครง สะบัก กะโหลกศีรษะ หรือกระดูกอก

อาการในเด็ก: มักเกิดเร็ว (acute) มีไข้ภายใน 7-10 วัน ร่วมกับปวด บวม และกดเจ็บตรงตำแหน่งที่ติดเชื้อ เด็กเล็กจะไม่ขยับแขนหรือขาข้างที่เป็น หรือไม่ยอมนั่ง/ยืนหากเป็นที่หมอนรองกระดูกสันหลัง ส่วนเด็กโตจะเดินกะเผลก ลงน้ำหนักไม่ได้ หรือใช้แขนยกของไม่ได้เพราะปวด ไข้สูงขึ้นเรื่อย ๆ

อาการในผู้ใหญ่: อาจเกิดเร็วเช่นเดียวกับเด็ก หรือค่อย ๆ เป็นเรื้อรังภายใน 3 สัปดาห์ – 3 เดือน หากเป็นที่กระดูกสันหลังอาจแยกยากจากโรคกระดูกสันหลังเสื่อม อาการสำคัญคือมีไข้ ร่วมกับปวดหลังที่ไม่ทุเลาแม้ขณะนอนพัก

ภาวะแทรกซ้อน: ได้แก่ กระดูกตายในตำแหน่งติดเชื้อ, การหยุดเจริญเติบโตของกระดูกในเด็ก, และหากอยู่ใกล้ข้ออาจลุกลามจนเป็น โรคข้ออักเสบจากการติดเชื้อ (septic arthritis)



การวินิจฉัยโรค

โรคกระดูกติดเชื้อวินิจฉัยได้ค่อนข้างยาก เพราะต้องแยกจากโรคติดเชื้อบริเวณใกล้เคียงที่มีอาการคล้ายคลึงกัน เช่น กล้ามเนื้ออักเสบเป็นหนอง (Pyomyositis), เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (Cellulitis), เบอร์ไซติส (Bursitis), ข้ออักเสบติดเชื้อ, หมอนรองกระดูกอักเสบ (Diskitis), วัณโรค, ซิฟิลิส และมะเร็งของกระดูกหรือเม็ดเลือด

การวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุดคือการดูดหนองจากตำแหน่งกระดูกมาตรวจย้อมและเพาะเชื้อ หรือการตรวจชิ้นเนื้อ โดยต้องอาศัยการยืนยันจากภาพรังสีวิทยาว่าความผิดปกติอยู่ที่กระดูกจริง

ปัญหาคือการเอกซเรย์กระดูกธรรมดารวมทั้ง CT-scan จะเริ่มเห็นความผิดปกติหลังมีอาการไปแล้ว 5-7 วันในเด็ก และ 10-14 วันในผู้ใหญ่ การตรวจ MRI ช่วยได้เร็วขึ้นเล็กน้อย ส่วนการตรวจที่ไวที่สุดคือ 3-phase bone scan แต่ทำได้เฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่

การรักษา

แม้การวินิจฉัยจะทำได้ยาก แต่การเพาะเชื้อจากเลือดสามารถพบเชื้อได้ถึง 60% ทำให้สามารถเริ่มการรักษาได้ทันที โดยเชื้อที่พบบ่อยที่สุดคือ Staphylococcus aureus (65-90%) ทั้งในกรณีเฉียบพลันและเรื้อรัง

ยาปฏิชีวนะควรเลือกตามชนิดของเชื้อ ระยะแรกควรให้ทางหลอดเลือดดำ 1-3 สัปดาห์ และเมื่ออาการดีขึ้นให้เปลี่ยนเป็นยารับประทานต่อจนจนครบ 6 สัปดาห์

หากมีหนองจำนวนมากตั้งแต่แรก มีกระดูกตาย หรือไม่ดีขึ้นหลังให้ยาฉีด 48-72 ชั่วโมง ควรทำการผ่าตัดระบายหนองและตัดส่วนที่ตายออก

การรักษาด้วยออกซิเจนแรงดันสูง (Hyperbaric oxygen therapy) อาจช่วยเร่งการซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระดูก แต่มีให้บริการเฉพาะโรงพยาบาลขนาดใหญ่

แม้รักษาแล้ว โรคกระดูกติดเชื้อมีอัตราการกลับมาเป็นซ้ำสูง โดยเฉพาะในเด็ก และอาจกลายเป็นโรคเรื้อรังจนต้องตัดแขนขาออก เด็กที่หายจากโรคแล้วก็ยังอาจมีการเจริญเติบโตของกระดูกผิดปกติ ทำให้แขนหรือขาข้างนั้นสั้นหรือเล็กกว่าอีกข้าง

พยากรณ์โรค

โรคกระดูกติดเชื้อมีพยากรณ์โรคที่ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการวินิจฉัยและการรักษา หากรักษาทันเวลา ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวได้ แต่ยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำสูง โดยเฉพาะในเด็ก หากปล่อยไว้นานอาจทำให้กระดูกเสียหายถาวร ต้องตัดแขนขา หรือเกิดความพิการจากการเจริญของกระดูกผิดปกติ สำหรับผู้ใหญ่ หากเป็นแบบเรื้อรังจะรักษายากและต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

การป้องกัน

เนื่องจากโรคนี้วินิจฉัยและรักษาได้ยาก อีกทั้งยังมีโอกาสเกิดซ้ำ การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรรักษาความสะอาดร่างกายและของใช้ส่วนตัว ระมัดระวังไม่ให้เกิดบาดแผลหรืออุบัติเหตุ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้

สรุป

โรคกระดูกติดเชื้อเป็นภาวะติดเชื้อที่รุนแรงและรักษายาก เกิดได้จากการบาดเจ็บ การติดเชื้อใกล้เคียง หรือการแพร่เชื้อผ่านกระแสเลือด พบมากในเด็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว การวินิจฉัยต้องอาศัยการเพาะเชื้อและการตรวจภาพทางรังสี รักษาหลักคือการให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับการผ่าตัดในบางราย โรคนี้มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำและก่อให้เกิดความพิการได้ การป้องกันโดยการรักษาสุขอนามัยและป้องกันการบาดเจ็บเป็นแนวทางที่ดีที่สุด