โรคพยาธิใบไม้ในปอด (Paragonimiasis)
โรคพยาธิใบไม้ในปอดเกิดจากพยาธิใบไม้สกุล Paragonimus ซึ่งอาศัยอยู่ในปอดของคนและสัตว์หลายชนิด พยาธิตัวแก่จะอยู่ในถุงบาง ๆ ที่มีทางติดต่อกับหลอดลม ไข่พยาธิถูกขับออกมากับเสมหะ หรือกับอุจจาระ (หากกลืนเสมหะลงไป) เมื่อลงสู่แหล่งน้ำ ไข่จะฟักเป็นตัวอ่อนแล้วไชเข้าสู่หอยน้ำจืด พัฒนาเป็นเซอร์คาเรีย และเมื่อเข้าสู่กุ้งหรือปูน้ำจืดก็จะกลายเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อที่มีซิสต์หุ้ม
ตัวอ่อนในกุ้งหรือปูไม่ตายง่าย ๆ แม้จะแช่เหล้าหรือดองในน้ำเกลือ ต้องปรุงให้สุกเท่านั้น เมื่อคนกินกุ้งปูน้ำจืดดิบหรือต้มไม่สุก ตัวอ่อนจะเข้าสู่ลำไส้ และภายใน 24–48 ชั่วโมงจะไชผ่านผนังลำไส้และกระบังลมเข้าสู่ปอด จากนั้นเจริญเป็นตัวแก่ภายในเวลาประมาณ 1 เดือน
พยาธิสภาพ
พยาธิตัวแก่ทำให้เกิดการอักเสบของปอด เนื้อปอดบริเวณนั้นจะตายและเกิดพังผืดหุ้มเป็นโพรงหนอง ภายในมีพยาธิและหนองสีน้ำตาลแดงคล้ายสนิมเหล็ก
บางครั้งพยาธิอาจพลัดไปอวัยวะอื่น เช่น สมอง ช่องท้อง หรือกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดโพรงหนองลักษณะเดียวกัน
อาการของโรค
ผู้ป่วยมักมีอาการไอเรื้อรัง เสมหะสีน้ำตาลคล้ายสนิม บางครั้งมีเลือดปน เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย และอาจมีไข้ต่ำ อาการใกล้เคียงกับวัณโรค หากพยาธิไปที่สมองจะทำให้เกิดอาการทางระบบประสาท เช่น ปวดศีรษะ ชัก อัมพาต หรือสายตาพร่ามัว ส่วนการไปอยู่ในช่องท้องอาจทำให้ปวดท้องเรื้อรัง
การวินิจฉัย
ภาพรังสีทรวงอกในระยะแรกอาจพบเงาทึบเป็นวงแหวนหรือกลม หากเป็นนานจะเห็นเป็นโพรงหนองชัดเจน หากอยู่ในอวัยวะอื่นอาจต้องตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อระบุตำแหน่ง
ในรายที่อยู่ในปอด การตรวจเสมหะมักพบไข่พยาธิจำนวนมาก ไข่มีลักษณะวงรีและมีฝาปิดหนึ่งด้าน บางครั้งตรวจพบในอุจจาระด้วย
หากอยู่ในอวัยวะอื่นและเอกซเรย์ปอดปกติ อาจต้องผ่าตัดหรือเจาะชิ้นเนื้อบริเวณที่เป็นหนองมาตรวจ การตรวจทางซีโรโลยีแม้ช่วยได้ แต่มีข้อจำกัดเพราะอาจให้ผลบวกข้ามกับพยาธิใบไม้ชนิดอื่น
กรณีไม่พบไข่ในเสมหะ ต้องพิจารณาโรคที่มีอาการคล้ายกัน เช่น วัณโรคปอด หลอดลมโป่งพอง (bronchiectasis) และมะเร็งปอด
การรักษา
ยาที่ใช้รักษาได้ผลดีคือ Praziquantel หรือ Bithionol ซึ่งสามารถฆ่าพยาธิได้อย่างรวดเร็ว อาการผู้ป่วยจะดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์ แต่กว่าภาพรังสีปอดจะกลับสู่ปกติอาจใช้เวลานานถึง 1 ปี
พยากรณ์โรค
โรคนี้มีพยากรณ์โรคที่ดี หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยมักหายและอาการดีขึ้นรวดเร็ว ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงพบไม่บ่อย แต่หากไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดภาวะเรื้อรัง ปอดถูกทำลาย หรือหากพยาธิเข้าสู่สมองและอวัยวะสำคัญอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการกินกุ้งหรือปูน้ำจืดดิบ หรือต้มไม่สุก
- บ้วนเสมหะลงภาชนะที่ถูกสุขลักษณะ ไม่บ้วนเรี่ยราดลงพื้นหรือแหล่งน้ำ
- ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการติดต่อและการป้องกันโรค
สรุป
โรคพยาธิใบไม้ในปอดเกิดจากการรับประทานกุ้งหรือปูน้ำจืดที่มีตัวอ่อนของพยาธิ ไม่ผ่านการปรุงสุก ตัวอ่อนจะเข้าสู่ปอดและทำให้เกิดการอักเสบคล้ายวัณโรค อาการหลักคือไอเรื้อรัง เสมหะสีสนิม และอาจมีเลือดปน การวินิจฉัยทำโดยตรวจพบไข่พยาธิในเสมหะหรืออุจจาระ และภาพเอกซเรย์ทรวงอก การรักษาด้วยยา Praziquantel หรือ Bithionol มีประสิทธิภาพสูง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการกินอาหารปรุงสุกและรักษาสุขอนามัยในการกำจัดเสมหะ การให้ความรู้แก่ประชาชนมีความสำคัญเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคนี้