โรคส่าไข้ (Roseola infantum)
โรคส่าไข้ หรือที่รู้จักกันในหลายชื่อ เช่น Roseola infantum, Exanthem subitum, Sixth disease, โรคหัดกุหลาบ หรือไข้ออกผื่นในเด็กเล็ก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส human herpesvirus ชนิดที่ 6 และ 7 (HHV-6, HHV-7) พบได้บ่อยในเด็กอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 3 ปี และพบได้น้อยมากในเด็กที่มีอายุมากกว่า 4 ปี
โรคนี้ติดต่อกันทางการหายใจ มีระยะฟักตัวประมาณ 10-15 วัน อาการเริ่มต้นคือไข้สูงเฉียบพลัน บางครั้งสูงถึง 40°C แต่เด็กมักดูอาการไม่หนักเท่ากับระดับไข้ที่พบ ผู้ปกครองบางรายอาจไม่ทันสังเกตว่าเด็กมีไข้ อย่างไรก็ตาม เด็กบางคนอาจมีอาการชักจากไข้สูง ไข้จะคงอยู่ประมาณ 3-5 วัน จากนั้นจะลดลงอย่างรวดเร็ว ลักษณะการขึ้นและลงของไข้อย่างทันทีทันใดนี้ถือเป็นจุดเด่นของโรค
หลังจากไข้ลดลงเพียงไม่กี่ชั่วโมง จะเกิดผื่นแดงเล็ก ๆ กระจายตามลำตัว ลักษณะไม่คัน ผื่นมักเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงหลังไข้ลง ซึ่งถือเป็นลักษณะสำคัญในการวินิจฉัย ผื่นจะคงอยู่เพียง 2-3 ชั่วโมง หรือบางรายอาจนาน 2-3 วัน ก่อนจะหายไปเองโดยไม่ทิ้งร่องรอย เช่น ผิวลอกหรือผิวคล้ำ
โดยทั่วไปโรคส่าไข้ไม่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ยกเว้นบางรายที่อาจมีอาการชักขณะไข้สูง เมื่อตรวจน้ำไขสันหลังมักไม่พบความผิดปกติ
การวินิจฉัยโรคทำได้จากลักษณะทางคลินิก เนื่องจากโรคนี้ไม่มียารักษาเฉพาะ การรักษาจึงเป็นการประคับประคองตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ และเช็ดตัวเมื่อไข้สูงมาก
สรุป
โรคส่าไข้เป็นโรคไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก มีอาการสำคัญคือไข้สูงเฉียบพลัน 3-5 วัน ตามด้วยผื่นแดงที่ลำตัวซึ่งหายได้เอง โรคนี้โดยทั่วไปไม่อันตรายและไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง การรักษามุ่งเน้นไปที่การดูแลตามอาการ เช่น ลดไข้และป้องกันภาวะชัก ผู้ปกครองควรสังเกตอาการไข้สูงในเด็กอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การดูแลได้อย่างเหมาะสม