โรคพยาธิแส้ม้า (Trichuriasis)

โรคพยาธิแส้ม้าเกิดจากพยาธิตัวกลม Trichuris trichiura ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือ ส่วนหัวมักขดม้วนและปล่อยส่วนหางที่เล็กยาวคล้ายแส้ พบมากทางภาคใต้คล้ายพยาธิไส้เดือนกลม พยาธิตัวแก่จะอาศัยอยู่ในลำไส้ส่วนซีคั่ม (cecum) โดยตัวเมีย 1 ตัวสามารถออกไข่ได้วันละ 3,000-7,000 ฟอง ไข่จะถูกขับออกมากับอุจจาระและพัฒนาเป็นระยะติดต่อเมื่ออยู่ในดินที่มีความชื้นและอุณหภูมิพอเหมาะภายในประมาณ 1 เดือน เมื่อคนรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนไข่ พยาธิจะฟักตัวในลำไส้และเจริญเติบโตเป็นตัวแก่ในซีคั่ม

อาการของโรค

โรคนี้พบได้บ่อยในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ อาการที่เกิดขึ้นได้แก่:

  • ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเดิน
  • อุจจาระเป็นมูกเลือด เนื่องจากพยาธิฝังหัวและลำตัวส่วนหน้าเข้าไปในเยื่อบุลำไส้ ทำให้เกิดแผล
  • หากติดเชื้อเรื้อรังจะทำให้เกิดภาวะซีด อ่อนเพลีย น้ำหนักลด
  • แผลที่ซีคั่มอาจติดเชื้อแบคทีเรียร่วม ทำให้ลำไส้อักเสบ มีอาการปวดท้องด้านขวาล่างคล้ายไส้ติ่งอักเสบ
  • ในบางกรณี พยาธิอาจไชเข้าไปในไส้ติ่ง ทำให้เกิดไส้ติ่งอักเสบจริง
  • ในเด็กที่เป็นรุนแรงอาจมีลำไส้ตรงปลิ้น (rectal prolapse) พร้อมพบพยาธิแส้ม้าเกาะอยู่ที่เยื่อบุลำไส้

การวินิจฉัย

การวินิจฉัยทำโดยตรวจอุจจาระ พบไข่ของพยาธิแส้ม้า ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเป็นรูปวงรีและมีฝาปิดสองด้าน



การรักษา

ยาที่ใช้ในการรักษาพยาธิแส้ม้า ได้แก่:

ในรายที่มีภาวะซีดหรือลำไส้อักเสบร่วม ควรให้การรักษาประคับประคอง เช่น การให้ธาตุเหล็ก และการรักษาภาวะแทรกซ้อนตามอาการ

พยากรณ์โรค

โดยทั่วไปโรคพยาธิแส้ม้ามีพยากรณ์โรคที่ดี หากได้รับการรักษาด้วยยาถ่ายพยาธิอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายได้ แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะซีดเรื้อรัง ภาวะทุพโภชนาการ หรือภาวะแทรกซ้อนทางลำไส้ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ และลำไส้ตรงปลิ้น โดยเฉพาะในเด็ก

การป้องกัน

  • รับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด
  • ดื่มน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงน้ำที่อาจปนเปื้อน
  • ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังขับถ่าย
  • กำจัดสิ่งปฏิกูลให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อลดการปนเปื้อนไข่พยาธิสู่สิ่งแวดล้อม
  • ตรวจและให้ยาถ่ายพยาธิในชุมชนเสี่ยงเป็นระยะ

สรุป

โรคพยาธิแส้ม้าเกิดจากการติดเชื้อ Trichuris trichiura ซึ่งติดต่อจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนไข่พยาธิ อาการมักพบในเด็ก เช่น ปวดท้อง ท้องเดิน อุจจาระเป็นมูกเลือด ซีด และในรายรุนแรงอาจเกิดภาวะลำไส้ตรงปลิ้น การวินิจฉัยทำได้จากการตรวจพบไข่พยาธิในอุจจาระ การรักษาด้วย Mebendazole หรือ Albendazole ให้ผลดี พยากรณ์โรคส่วนใหญ่เป็นไปในทางที่ดีหากได้รับการรักษา การป้องกันทำได้โดยการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลและชุมชน รวมถึงการถ่ายพยาธิเป็นระยะในกลุ่มเสี่ยง