โรคพยาธิแองจิโอสตรองจีลัส (Angiostrongyliasis)
โรคพยาธิแองจิโอสตรองจีลัสเกิดจากพยาธิตัวกลมขนาดเล็กชื่อ
Angiostrongylus cantonensis ซึ่งอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู
พบได้บ่อยในภาคอีสานและภาคกลางของประเทศไทย พยาธิตัวเต็มวัยจะออกไข่และฟักเป็นตัวอ่อนในปอดหนู จากนั้นตัวอ่อนจะเคลื่อนขึ้นไปตามหลอดลมจนถึงคอหอย และถูกกลืนลงไปในกระเพาะอาหาร ผ่านลำไส้แล้วออกมากับอุจจาระของหนู
ตัวอ่อนที่ออกมากับอุจจาระสามารถไชเข้าสู่โฮสต์กลาง เช่น หอยโข่ง หอยปัง หอยทาก และกุ้ง ภายในตัวโฮสต์กลาง พยาธิจะเจริญจนกลายเป็นระยะติดต่อ หากมนุษย์รับประทานหอยหรือกุ้งที่ปรุงไม่สุก เช่น ยำหรือพล่า จะทำให้ตัวอ่อนเข้าสู่ร่างกาย และเดินทางไปที่สมอง ก่อให้เกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบและสมองอักเสบได้
อาการของโรค
อาการแตกต่างกันไปในแต่ละราย โดยบางรายเริ่มแสดงอาการภายใน 24 ชั่วโมงหลังรับประทานหอยโข่งดิบ ขณะที่บางรายมีระยะฟักตัวนานถึง 4 สัปดาห์
อาจเริ่มด้วยอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ก่อนเกิดอาการทางระบบประสาท หรือบางรายมีอาการทางสมองทันที
อาการสำคัญคือปวดศีรษะร่วมกับมีไข้ อาจพบอัมพาตของแขน ขา หรือกล้ามเนื้อใบหน้า คอแข็ง และมีอาการซึม ไม่ค่อยรู้สึกตัว ในบางรายพยาธิอาจไชเข้าสู่ลูกตา ทำให้ตาเหล่ เห็นภาพซ้อน หรืออาจสูญเสียการมองเห็นได้
การวินิจฉัย
การวินิจฉัยอาศัยประวัติการบริโภคหอยหรือกุ้งสุก ๆ ดิบ ๆ
ร่วมกับการตรวจเลือดและน้ำไขสันหลัง ซึ่งมักพบเม็ดเลือดขาวชนิดอีโอซิโนฟิลจำนวนมาก
รวมทั้งผลการตรวจทางภูมิคุ้มกัน เช่น ELISA ที่ช่วยยืนยันการติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยที่แน่นอนคือต้องตรวจพบตัวอ่อนพยาธิในอวัยวะที่มันอาศัยอยู่
แต่เป็นเรื่องยากที่จะพบ เว้นแต่ในกรณีที่ผู้ป่วยเสียชีวิต
โรคนี้ต้องแยกจากโรคพยาธิชนิดอื่นที่ทำให้มีอาการคล้ายกันทางสมอง เช่น โรคพยาธิตัวจี๊ด โรคทริฆิโนสิส โรคท็อกโซคาริเอสิส โรคพยาธิตืดหมู โรคพยาธิใบไม้ในปอด และโรคพยาธิใบไม้ในเลือด
การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้รักษาโรคนี้โดยเฉพาะ มีการศึกษาใช้
Albendazole ร่วมกับ Dexamethasone ซึ่งพบว่าให้ผลดีพอสมควร อย่างไรก็ตาม โรคนี้มักมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ เนื่องจากสมองไม่ใช่แหล่งอาศัยตามปกติของพยาธิ ตัวอ่อนจึงไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดี และมักตายในร่างกายภายใน 1–2 เดือน การรักษาจึงมุ่งเน้นที่การประคับประคองอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ ยาแก้ปวด พักผ่อน
และการเจาะน้ำไขสันหลังออกเพื่อช่วยลดความดันในกะโหลกศีรษะ
การป้องกัน
วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงการรับประทานหอยหรือกุ้งดิบ รวมถึงอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทานเสมอ เพื่อป้องกันการติดพยาธิชนิดนี้
สรุป
โรคพยาธิแองจิโอสตรองจีลัสเป็นโรคที่เกิดจากพยาธิตัวกลมซึ่งมีหนูเป็นแหล่งรังโรค โดยมนุษย์ติดเชื้อจากการกินหอยหรือกุ้งที่ปรุงไม่สุก อาการที่พบบ่อยคือปวดศีรษะ มีไข้ อาการทางระบบประสาท และในบางรายอาจสูญเสียการมองเห็น การวินิจฉัยอาศัยประวัติการกินอาหารร่วมกับการตรวจเลือดและน้ำไขสันหลัง แม้จะยังไม่มียาที่รักษาโดยตรง แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถหายได้เองเมื่อได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การป้องกันที่ได้ผลที่สุดคือการบริโภคอาหารที่ปรุงสุก ปลอดภัย และรักษาสุขอนามัยในการรับประทานอาหาร