โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)

โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือ Chronic Obstructive Pulmonary Disease (COPD) เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังและการทำลายของปอด ซึ่งรวมถึง ถุงลมโป่งพอง (Emphysema) และ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic bronchitis) ทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบ เกิดการอุดกั้นของลมหายใจอย่างถาวร และอาการจะแย่ลงทีละน้อยตามเวลา

COPD จัดเป็นโรคที่พบบ่อยทั่วโลก องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประชากรโลก มักพบในผู้สูบบุหรี่หรือผู้ที่สัมผัสควันบุหรี่เป็นเวลานาน รวมถึงผู้ที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่น ควัน หรือมลพิษทางอากาศ โรคนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

สาเหตุ

  • การสูบบุหรี่ (เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด)
  • การได้รับควันบุหรี่มือสอง
  • การทำงานที่ต้องสัมผัสฝุ่น สารเคมี หรือควันพิษ
  • มลพิษทางอากาศ
  • พันธุกรรม เช่น การขาดเอนไซม์ Alpha-1 antitrypsin ที่ทำให้เกิดถุงลมโป่งพองตั้งแต่อายุน้อย

อาการ

  • ไอเรื้อรัง มักมีเสมหะร่วมด้วย
  • หายใจลำบาก โดยเฉพาะเวลาออกแรง
  • หายใจมีเสียงวี้ด (wheezing)
  • แน่นหน้าอก
  • ติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อย
  • ระยะรุนแรงอาจพบ น้ำหนักลด กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปากและเล็บเขียว


การวินิจฉัย

การวินิจฉัยโรค COPD อาศัยประวัติการสัมผัสปัจจัยเสี่ยง อาการ และผลการตรวจสมรรถภาพปอด (Spirometry) ที่แสดงการอุดกั้นของลมหายใจถาวร

เกณฑ์การวินิจฉัย COPD:

  • มีประวัติไอเรื้อรัง มีเสมหะ หรือหายใจลำบาก
  • มีประวัติสัมผัสปัจจัยเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่
  • ผลตรวจ Spirometry: ค่า FEV1/FVC < 70% หลังพ่นยาขยายหลอดลม

ตารางการวินิจฉัยแยกโรค

โรค ลักษณะสำคัญ การตรวจสมรรถภาพปอด
COPD ไอเรื้อรัง มีเสมหะ หายใจลำบาก ค่อย ๆ แย่ลง สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ FEV1/FVC < 70% และไม่กลับสู่ปกติหลังใช้ยาขยายหลอดลม
โรคหืด (Asthma) ไอหรือหอบเป็นพัก ๆ มักสัมพันธ์กับสารก่อภูมิแพ้หรือการติดเชื้อ FEV1/FVC ลดลง แต่ดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังใช้ยาขยายหลอดลม
หัวใจล้มเหลว (Heart failure) หอบเหนื่อย ขาบวม เสียงหัวใจผิดปกติ ไม่พบปอดอุดกั้นถาวรแบบ COPD
วัณโรคปอด มีไข้ ไอเรื้อรัง น้ำหนักลด เสมหะปนเลือด ไม่ใช่การอุดกั้นแบบ COPD แต่พบพังผืดหรือโพรงในปอด

การจัดระดับความรุนแรงของ COPD (GOLD Classification)

ระยะ (GOLD stage) ค่าการวัดสมรรถภาพปอด (FEV1 % predicted) ลักษณะทางคลินิก
GOLD 1 (Mild) FEV1 ≥ 80% อาจมีไอและเสมหะเล็กน้อย อาการยังไม่ชัดเจน
GOLD 2 (Moderate) 50% ≤ FEV1 < 80% หายใจลำบากเวลาออกแรง อาการชัดขึ้น
GOLD 3 (Severe) 30% ≤ FEV1 < 50% หายใจลำบากมากขึ้น คุณภาพชีวิตลดลง กำเริบบ่อย
GOLD 4 (Very severe) FEV1 < 30% หรือ < 50% ร่วมกับภาวะหายใจล้มเหลว อาการรุนแรง คุณภาพชีวิตแย่มาก เสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง


การรักษา

  • การหยุดสูบบุหรี่ (เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการชะลอโรค)
  • ยาขยายหลอดลม (Bronchodilators) เช่น beta-agonists, anticholinergics
  • ยาสเตียรอยด์สูดพ่น (Inhaled corticosteroids) ในบางราย
  • ยาปฏิชีวนะ เมื่อมีการติดเชื้อกำเริบ
  • วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบ เพื่อลดการกำเริบ
  • ออกซิเจนบำบัด สำหรับผู้ที่มีภาวะพร่องออกซิเจนเรื้อรัง
  • การฟื้นฟูสมรรถภาพปอด เช่น กายภาพบำบัด การออกกำลังกายที่เหมาะสม
  • การผ่าตัด (เช่น การลดขนาดปอด หรือการปลูกถ่ายปอด) ในกรณีที่โรครุนแรงมาก

แนวทางรักษาตามระดับความรุนแรง (GOLD guideline)

ระยะ (GOLD stage) แนวทางการรักษา
GOLD 1 (Mild)
  • หยุดสูบบุหรี่ (สำคัญที่สุด)
  • ส่งเสริมการออกกำลังกายและการฟื้นฟูสมรรถภาพปอด
  • ใช้ยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์สั้น (SABA หรือ SAMA) เมื่อมีอาการ
GOLD 2 (Moderate)
  • ดำเนินมาตรการทั้งหมดใน GOLD 1
  • เริ่มใช้ยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์ยาว (LABA หรือ LAMA)
  • วัคซีนไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบ
GOLD 3 (Severe)
  • ดำเนินมาตรการทั้งหมดใน GOLD 2
  • พิจารณาเพิ่มยาสเตียรอยด์สูดพ่น (ICS) ร่วมกับ LABA/LAMA หากมีอาการกำเริบบ่อย
  • ติดตามอาการและสมรรถภาพปอดอย่างใกล้ชิด
GOLD 4 (Very severe)
  • ดำเนินมาตรการทั้งหมดใน GOLD 3
  • ให้ออกซิเจนบำบัดในผู้ที่มีภาวะพร่องออกซิเจนเรื้อรัง
  • พิจารณาการผ่าตัด (ลดขนาดปอด หรือปลูกถ่ายปอด)
  • การดูแลแบบประคับประคอง (palliative care) สำหรับผู้ที่อาการรุนแรงมาก


พยากรณ์โรค

COPD เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่อาการสามารถควบคุมได้ หากไม่ได้รับการดูแล อาการจะค่อย ๆ แย่ลงและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตจากภาวะหายใจล้มเหลวหรือภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวมและหัวใจวาย อย่างไรก็ตาม การหยุดสูบบุหรี่และการรักษาอย่างต่อเนื่องสามารถช่วยชะลอความเสื่อมและทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

การป้องกัน

  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และควันบุหรี่มือสอง
  • ป้องกันการสัมผัสฝุ่น ควัน และสารพิษจากสิ่งแวดล้อมหรือที่ทำงาน
  • ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบ
  • ดูแลสุขภาพปอดด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

สรุป

โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) เป็นกลุ่มโรคที่รวมทั้งถุงลมโป่งพองและหลอดลมอักเสบเรื้อรัง สาเหตุหลักคือการสูบบุหรี่และการสัมผัสสารระคายเคือง ทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจถาวร ผู้ป่วยมักมีอาการไอเรื้อรัง มีเสมหะ และหายใจลำบาก ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การหยุดสูบบุหรี่เป็นหัวใจหลักในการรักษา ร่วมกับการใช้ยา การฟื้นฟูสมรรถภาพปอด และการป้องกันการติดเชื้อ แม้โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การดูแลอย่างเหมาะสมสามารถชะลอความรุนแรงและช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น