โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple sclerosis, MS)

โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งเป็นโรคทางระบบประสาทส่วนกลางที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน พบได้บ่อยในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยอัตราส่วนประมาณ 2–3 : 1 มักเริ่มแสดงอาการในช่วงอายุ 20–40 ปี ความชุกของโรคแตกต่างตามภูมิศาสตร์ โดยพบได้บ่อยในประเทศเขตหนาวหรือเขตที่มีละติจูดสูง และพบได้น้อยในเขตร้อนชื้น

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

สาเหตุที่แท้จริงของ MS ยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย ได้แก่:

  • พันธุกรรม: ผู้ที่มีญาติสายตรงเป็นโรคนี้จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น
  • ภูมิคุ้มกัน: ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ โจมตีปลอกไมอีลิน (myelin sheath) ของเส้นใยประสาท
  • สิ่งแวดล้อม: การขาดวิตามินดี การได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ
  • การติดเชื้อไวรัส: โดยเฉพาะไวรัส Epstein-Barr (EBV) อาจเกี่ยวข้อง
  • เพศและฮอร์โมน: พบในเพศหญิงมากกว่าชาย

อาการ

อาการของ MS มีความหลากหลาย ขึ้นกับตำแหน่งของสมองและไขสันหลังที่ถูกทำลาย อาการที่พบบ่อย ได้แก่:

  • ตามัว มองเห็นซ้อน หรือการอักเสบของเส้นประสาทตา
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือแข็งเกร็ง
  • ชา หรือรู้สึกเสียวซ่าตามแขนขา
  • เสียการทรงตัว เดินเซ
  • เหนื่อยง่ายผิดปกติ
  • ปัญหาการขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ
  • ความผิดปกติทางความคิด ความจำ และอารมณ์


การวินิจฉัย

การวินิจฉัย MS ต้องอาศัยข้อมูลจากหลายด้าน ได้แก่:

  • ประวัติและการตรวจร่างกายทางระบบประสาท: ค้นหาความผิดปกติที่เกิดซ้ำในต่างตำแหน่งของระบบประสาท
  • MRI สมองและไขสันหลัง: แสดงรอยโรคแบบ demyelination หลายตำแหน่ง
  • การตรวจน้ำไขสันหลัง (CSF): พบ oligoclonal bands ที่บ่งถึงการอักเสบของระบบประสาทส่วนกลาง
  • Evoked potentials: ตรวจหาการนำสัญญาณประสาทที่ผิดปกติ

การวินิจฉัยแยกโรค

โรคที่อาจมีอาการคล้าย MS และต้องแยกออก ได้แก่:

โรค ลักษณะเด่นที่ใช้แยกจาก MS
Neuromyelitis optica (NMO) มักมีการอักเสบของเส้นประสาทตาและไขสันหลังรุนแรง ตรวจพบแอนติบอดีต่อ AQP4
Systemic lupus erythematosus (SLE) มีอาการทางระบบอื่นร่วม เช่น ผื่น แพ้แสง ภาวะไตอักเสบ ตรวจพบแอนติบอดี ANA
Sarcoidosis มี granuloma หลายอวัยวะ เช่น ปอด ต่อมน้ำเหลือง ร่วมกับอาการทางระบบประสาท
Vitamin B12 deficiency มีโลหิตจาง ชาปลายมือปลายเท้า และตรวจเลือดพบระดับวิตามินบี 12 ต่ำ

การรักษา

การรักษา MS แบ่งเป็น 3 ด้านหลัก:

  1. การรักษาอาการกำเริบ (Relapse): ให้ยาสเตียรอยด์ขนาดสูง เช่น methylprednisolone เพื่อลดการอักเสบ
  2. การรักษาเพื่อชะลอโรค (Disease-modifying therapies, DMTs): เช่น interferon-beta, glatiramer acetate, fingolimod, natalizumab เพื่อลดความถี่และความรุนแรงของการกำเริบ
  3. การรักษาประคับประคอง: เช่น กายภาพบำบัด การใช้ยาลดอาการกล้ามเนื้อเกร็ง ยาลดอาการอ่อนเพลีย และการฟื้นฟูสมรรถภาพ


พยากรณ์โรค

ผู้ป่วย MS มีความแตกต่างกันอย่างมาก บางรายอาการกำเริบไม่รุนแรงและคงที่เป็นเวลานาน แต่บางรายอาจมีการดำเนินโรคอย่างต่อเนื่องจนทำให้พิการ การรักษาด้วย DMTs สามารถช่วยชะลอการดำเนินโรคและลดความพิการได้ อย่างไรก็ตาม MS ยังถือเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

การป้องกัน

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ MS แต่การลดปัจจัยเสี่ยงอาจช่วยได้ เช่น

  • การได้รับแสงแดดและวิตามินดีอย่างเพียงพอ
  • การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
  • การดูแลสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง

สรุป

โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายปลอกประสาทในสมองและไขสันหลัง ส่งผลให้การทำงานของระบบประสาทผิดปกติ อาการหลากหลายและเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่ละบุคคล การวินิจฉัยต้องอาศัยการตรวจทางคลินิกและการถ่ายภาพร่วมกัน แม้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาสมัยใหม่สามารถช่วยควบคุมโรค ลดการกำเริบ และชะลอความพิการ ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและครบวงจรทั้งด้านการแพทย์และการฟื้นฟูสมรรถภาพ