โรคประสาทหูเสื่อมตามวัย (Presbycusis)

โรคประสาทหูเสื่อมตามวัย (Presbycusis) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยมีลักษณะเป็นการสูญเสียการได้ยินแบบค่อยเป็นค่อยไป เกิดจากการเสื่อมของโครงสร้างในหูชั้นใน รวมถึงเซลล์ประสาทรับเสียงและเส้นประสาทการได้ยิน จากการสำรวจพบว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป มากกว่า 30–40% มีระดับการสูญเสียการได้ยินที่มีผลต่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

สาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยง

  • อายุที่มากขึ้น – การเสื่อมตามธรรมชาติของโครงสร้างหูชั้นใน
  • พันธุกรรม – มีประวัติครอบครัวที่มีการสูญเสียการได้ยินในวัยชรา
  • การสัมผัสเสียงดังเป็นเวลานาน
  • โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด
  • การใช้ยาที่มีผลข้างเคียงต่อการได้ยิน (Ototoxic drugs) เช่น ยาขับปัสสาวะบางชนิด ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Aminoglycoside
  • ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์

อาการ

  • ได้ยินเสียงเบาลง โดยเฉพาะเสียงความถี่สูง เช่น เสียงเด็กหรือเสียงนกร้อง
  • ได้ยินคำพูดไม่ชัดเจน โดยเฉพาะในที่มีเสียงรบกวน
  • รู้สึกว่าคนรอบข้างพูดเบาหรือพูดไม่ชัด ต้องขอให้พูดซ้ำบ่อยๆ
  • มีอาการหูอื้อหรือเสียงวิ้งในหู (Tinnitus)
  • ส่งผลต่อการสื่อสาร อาจทำให้เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว ซึมเศร้า


การวินิจฉัย

การวินิจฉัยโรคประสาทหูเสื่อมตามวัยประกอบด้วย:

  • ซักประวัติ – อาการสูญเสียการได้ยินที่ค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
  • ตรวจร่างกายหู คอ จมูก เพื่อแยกโรคอื่น
  • การตรวจการได้ยิน (Audiometry) – พบการสูญเสียการได้ยินแบบ Sensorineural Hearing Loss โดยเฉพาะความถี่สูง

การวินิจฉัยแยกโรค

โรค ลักษณะอาการ ข้อแตกต่างจาก Presbycusis
หูตึงจากขี้หูอุดตัน การได้ยินลดลงทันทีข้างเดียว ดีขึ้นเมื่อเอาขี้หูออก Presbycusis เป็นการสูญเสียแบบค่อยเป็นค่อยไป และมักเป็นสองข้าง
Otosclerosis การได้ยินลดลงทีละน้อยในวัยกลางคน มักมีประวัติครอบครัว ตรวจพบการเคลื่อนไหวของกระดูกหูผิดปกติ
Acoustic neuroma สูญเสียการได้ยินข้างเดียว มีอาการเวียนศีรษะหรือเสียการทรงตัวร่วมด้วย Presbycusis มักเกิดทั้งสองข้าง และไม่มีอาการทางระบบประสาทเด่นชัด
หูตึงจากเสียงดัง (Noise-induced hearing loss) มีประวัติสัมผัสเสียงดังซ้ำๆ เช่น จากงานหรือเครื่องจักร อาการอาจเกิดในวัยหนุ่มสาว ไม่จำกัดเฉพาะผู้สูงอายุ


การรักษา

  • การใช้เครื่องช่วยฟัง (Hearing aids) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการได้ยิน
  • การฝึกฟังและบำบัดการสื่อสาร (Aural rehabilitation)
  • การใช้ Cochlear implant ในรายที่มีการสูญเสียการได้ยินรุนแรง
  • การให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและครอบครัว เพื่อปรับตัวในการสื่อสาร

พยากรณ์โรค

โรคประสาทหูเสื่อมตามวัยเป็นภาวะที่ค่อยๆ แย่ลงตามกาลเวลา แม้ไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่ด้วยเครื่องช่วยฟังและการบำบัดการสื่อสาร สามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดภาวะแทรกซ้อนทางด้านจิตใจและสังคม

การป้องกัน

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสเสียงดังเป็นเวลานาน
  • ควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
  • งดสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์
  • ตรวจการได้ยินเป็นระยะเมื่อเข้าสู่วัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ
  • ใช้ยาที่อาจมีผลต่อการได้ยินอย่างระมัดระวังภายใต้การดูแลของแพทย์

สรุป

โรคประสาทหูเสื่อมตามวัย (Presbycusis) เป็นภาวะการสูญเสียการได้ยินที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ และพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ สาเหตุเกิดจากการเสื่อมของโครงสร้างหูชั้นในและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ แม้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถบรรเทาและฟื้นฟูสมรรถภาพการสื่อสารด้วยเครื่องช่วยฟัง และการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับครอบครัว การป้องกันโดยลดปัจจัยเสี่ยง เช่น หลีกเลี่ยงเสียงดังและควบคุมโรคประจำตัว จะช่วยชะลอการสูญเสียการได้ยิน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุได้อย่างมาก