โรคหัวใจห้องบนเต้นรัว (Atrial fibrillation, AF)

โรคหัวใจห้องบนเต้นรัว หรือ AF เป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่พบบ่อยที่สุด โดยเกิดจากการนำกระแสไฟฟ้าในหัวใจห้องบนผิดปกติ ทำให้หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอและเร็ว ภาวะนี้ไม่เพียงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวและการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในสมอง (Stroke) อีกด้วย

AF พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยอัตราพบเพิ่มขึ้นตามอายุ พบได้ประมาณ 1–2% ของประชากรทั่วไป และมากกว่า 10% ในผู้ที่มีอายุเกิน 80 ปี นอกจากนี้ยังพบได้มากในผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด

สาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยง

  • อายุที่มากขึ้น
  • โรคหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ โรคหัวใจล้มเหลว
  • ความดันโลหิตสูง
  • โรคต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน
  • ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Obstructive sleep apnea)
  • การดื่มแอลกอฮอล์มากหรือเป็นครั้งคราว (Holiday heart syndrome)
  • โรคอ้วน เบาหวาน และโรคไตเรื้อรัง
  • พันธุกรรมและประวัติครอบครัว

อาการ

บางรายไม่มีอาการ แต่ตรวจพบโดยบังเอิญ อาการที่อาจพบ ได้แก่

  • ใจสั่น หัวใจเต้นแรงหรือไม่สม่ำเสมอ
  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
  • หายใจไม่อิ่ม หอบ โดยเฉพาะเวลาทำกิจกรรม
  • เวียนศีรษะ หน้ามืด

การวินิจฉัย

การวินิจฉัย AF ทำโดยซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ซึ่งจะแสดงคลื่นหัวใจที่ไม่เป็นระเบียบและไม่มีคลื่น P ที่ชัดเจน ในบางรายอาจต้องติดเครื่องบันทึกคลื่นหัวใจ 24 ชั่วโมง (Holter monitor) หรือการตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (Echocardiogram) เพื่อประเมินโครงสร้างและการทำงานของหัวใจ



การรักษา

  • การควบคุมอัตราการเต้นหัวใจ (Rate control): ใช้ยาลดการเต้นของหัวใจ เช่น Beta-blockers, Calcium channel blockers, Digoxin
  • การควบคุมจังหวะหัวใจ (Rhythm control): ใช้ยาต้านการเต้นผิดจังหวะ (Antiarrhythmic drugs) หรือการช็อกไฟฟ้าหัวใจ (Cardioversion)
  • การรักษาเพื่อป้องกันลิ่มเลือด: ให้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) เช่น Warfarin หรือ NOACs (Apixaban, Dabigatran, Rivaroxaban, Edoxaban)
  • การรักษาด้วยหัตถการ: เช่น Catheter ablation เพื่อตัดวงจรไฟฟ้าที่ผิดปกติ หรือการฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) ในบางราย

พยากรณ์โรค

AF เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่หายขาด แต่สามารถควบคุมได้ หากไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในสมอง (Stroke) และหัวใจล้มเหลว อย่างไรก็ตาม หากได้รับการรักษาที่เหมาะสม ผู้ป่วยสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้

การป้องกัน

  • ควบคุมความดันโลหิต เบาหวาน และไขมันในเลือด
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
  • ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
  • รักษาภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
  • ตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง

สรุป

โรคหัวใจห้องบนเต้นรัว (Atrial fibrillation) เป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่พบบ่อย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคหัวใจ อาการสำคัญคือใจสั่น เหนื่อยง่าย และหายใจไม่อิ่ม การวินิจฉัยทำโดยตรวจ ECG และอาจใช้การตรวจเพิ่มเติม การรักษามีทั้งการควบคุมอัตราการเต้นและการควบคุมจังหวะ รวมถึงการให้ยาละลายลิ่มเลือดเพื่อป้องกัน Stroke แม้โรคนี้ไม่หายขาด แต่การรักษาและการปรับพฤติกรรมสามารถช่วยควบคุมอาการ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้