เนื้องอกกระดูกอ่อน (Chondrogenic tumors)
กระดูกอ่อน (cartilage) เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดพิเศษที่มีทั้งความยืดหยุ่นและความแข็งแรงพอสมควร ประกอบด้วยเซลล์คอนโดรไซต์ (chondrocytes) ฝังอยู่ในเนื้อพื้น (matrix) ซึ่งมีคอลลาเจนและโปรตีโอไกลแคน ช่วยให้ทนต่อแรงกดและแรงดึงได้ดี
กระดูกอ่อนแบ่งเป็น 3 ชนิดหลัก ได้แก่
- Hyaline cartilage – พบมากที่สุด เช่น บริเวณข้อต่อ ปลายกระดูกยาว และโครงสร้างทางเดินหายใจ
- Fibrocartilage – มีคอลลาเจนหนาแน่น แข็งแรง ทนแรงกดและแรงดึง เช่น หมอนรองกระดูกสันหลัง
- Elastic cartilage – มีเส้นใยอีลาสติน ยืดหยุ่นสูง เช่น ใบหู และฝาปิดกล่องเสียง
หน้าที่หลักของกระดูกอ่อน ได้แก่ รองรับแรงกด ลดแรงเสียดทานในข้อต่อ คงรูปของอวัยวะบางชนิด และเป็นแม่แบบในการสร้างกระดูกยาวระหว่างการพัฒนาร่างกาย
เนื้องอกกระดูกอ่อน (chondrogenic tumors) พบได้น้อยกว่าเนื้องอกกระดูก (bone tumors) โดยชนิดไม่ร้ายพบมากกว่ามะเร็ง ซึ่งตรงข้ามกับเนื้องอกกระดูก ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญได้แก่
- ความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น hereditary multiple exostoses ทำให้เกิด osteochondroma หลายตำแหน่ง และเพิ่มโอกาสกลายเป็นมะเร็ง
- โรคกระดูกอ่อนหลายตำแหน่ง เช่น Ollier disease และ Maffucci syndrome ซึ่งมีความเสี่ยงกลายเป็นมะเร็งกระดูกอ่อนสูงกว่าปกติ
- อายุ — ผู้ใหญ่ตอนปลายมีโอกาสพบ chondrosarcoma มากขึ้น
- ตำแหน่งกระดูกแกนกลางลำตัวหรือกระดูกเชิงกราน มักสัมพันธ์กับโรคที่มีความรุนแรงมากกว่า
ชนิดของเนื้องอก
A. เนื้องอกไม่ร้ายของกระดูกอ่อน (Chondroma)
- Osteochondroma (Exostosis) — พบบ่อยที่สุด มักพบในวัยรุ่นถึงผู้ใหญ่ตอนต้น พบในผู้ชายมากกว่า อาจเป็นก้อนเดี่ยวหรือหลายก้อน (ใน hereditary multiple exostoses) มักเกิดรอบแผ่นการเจริญของกระดูกยาว เช่น ใกล้เข่า (distal femur, proximal tibia) หรือ proximal humerus
ลักษณะพิเศษ: มีก้านกระดูกยื่นออกนอกกระดูกหลักและมีหมวกกระดูกอ่อน (cartilage cap); หากหมวกหนามาก (>1.5–2 ซม. ในผู้ใหญ่) ควรกังวลเรื่องกลายเป็นมะเร็ง
โอกาสกลายเป็นมะเร็ง: ต่ำ (<1% ในชนิดเดี่ยว) แต่เพิ่มเป็น 2–5% ในชนิดพันธุกรรมหลายก้อน
- Enchondroma — พบรองลงมา มักพบในวัยผู้ใหญ่ตอนต้นถึงวัยกลางคน ชอบเกิดที่กระดูกท่อนมือ/เท้า (phalanges, metacarpals/metatarsals) และกระดูกยาวของแขนขา
ลักษณะพิเศษ: รอยโรคอยู่ภายในโพรงกระดูก มีการกลายเป็นหินปูนแบบ rings-and-arcs calcification; ในผู้ที่มีก้อนหลายตำแหน่ง (Ollier disease) หรือมีหลอดเลือดผิดปกติร่วม (Maffucci syndrome) มีความเสี่ยงกลายเป็นมะเร็งสูง
โอกาสกลายเป็นมะเร็ง: ต่ำมากในชนิดเดี่ยว (<1%) แต่สูงขึ้นอย่างมากใน Ollier/Maffucci
- Periosteal chondroma (Juxtacortical chondroma) — พบไม่บ่อย มักพบในวัยรุ่นถึงผู้ใหญ่ตอนต้น ราว 90% เกิดที่ผิวกระดูกบริเวณกระดูกยาวของแขน–ขา โดยเฉพาะด้านใกล้ลำตัวของแขน
ลักษณะพิเศษ: ก้อนอยู่ผิวกระดูกและกัดเซาะเป็นเบ้าตื้น (cortical saucerization)
โอกาสกลายเป็นมะเร็ง: ต่ำมาก
- Chondromyxoid fibroma (CMF) — พบไม่บ่อย แต่พบได้ในคนหนุ่มสาว ชอบเกิดที่กระดูกยาวบริเวณเมตาไฟซิส (metaphysis)
ลักษณะพิเศษ: เนื้อเยื่อประกอบด้วย cartilage และ myxoid ล้อมด้วยเซลล์รูปกระบอง; ภาพรังสีมักเป็นรอยโรคทำลายกระดูกขอบชัด
โอกาสกลายเป็นมะเร็ง: ต่ำมาก แต่มีโอกาสกลับเป็นซ้ำหลังขูดก้อน
B. มะเร็งกระดูกอ่อน (Chondrosarcoma)
- Conventional Chondrosarcoma Grade 1 — รุนแรงน้อยที่สุด พบในผู้ใหญ่ มักเกิดที่กระดูกยาวของแขน–ขามากกว่ากระดูกแกนลำตัว
ลักษณะพิเศษ: โตช้า เจ็บปวดเรื้อรัง ภาพรังสีอาจคล้าย enchondroma แต่มี endosteal scalloping ลึก/ยาว และมีการขยายโพรงกระดูก
พยากรณ์โรค: ดีเมื่ออยู่ที่แขน–ขา โอกาสแพร่กระจายต่ำมาก แต่ถ้าอยู่ที่กระดูกแกนลำตัว/เชิงกรานจะก้าวรุนแรงกว่า
- Conventional Chondrosarcoma Grade 2-3 — รุนแรงปานกลาง พบในวัยกลางคนขึ้นไป มักเกิดที่กระดูกเชิงกราน ซี่โครง กระดูกสะบัก และกระดูกยาว
ลักษณะพิเศษ: ปวดมากขึ้น โตเร็ว อาจทะลุเปลือกกระดูกและมีก้อนนอกกระดูก
พยากรณ์โรค: ขึ้นกับเกรดและตำแหน่ง เกรดสูงเสี่ยงกลับเป็นซ้ำและแพร่กระจายสูง
- Clear Cell Chondrosarcoma — รุนแรงปานกลาง พบน้อย พบในผู้ใหญ่ตอนต้นถึงวัยกลางคน ชอบเกิดที่ส่วนปลายกระดูกบริเวณข้อ (epiphysis) โดยเฉพาะ proximal femur และ proximal humerus
ลักษณะพิเศษ: โตช้า อาจคล้าย chondroblastoma ในผู้ใหญ่
พยากรณ์โรค: ค่อนข้างดีกว่าชนิดเกรดสูง แต่เสี่ยงกลับเป็นซ้ำถ้าตัดไม่กว้าง
- Juxtacortical (Periosteal) Chondrosarcoma — รุนแรงปานกลาง พบไม่บ่อย พบในผู้ใหญ่ มักเกิดที่ผิวกระดูกยาว โดยเฉพาะกระดูกต้นขา
ลักษณะพิเศษ: อยู่ที่ผิวกระดูกและต่อเนื่องกับเยื่อหุ้มกระดูก
พยากรณ์โรค: ปานกลาง ขึ้นกับเกรดและขอบเขตการผ่าตัด
- Mesenchymal Chondrosarcoma — ค่อนข้างรุนแรง พบในคนอายุน้อยกว่าชนิดอื่น อาจเกิดได้ทั้งในกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน มักอยู่ที่กระดูกแกนลำตัว กะโหลก และกระดูกยาว
ลักษณะพิเศษ: โตเร็ว แต่ตอบสนองต่อเคมีบำบัดดีกว่าชนิดอื่น
พยากรณ์โรค: ก้าวร้าว เสี่ยงแพร่กระจายสูง ต้องรักษาเชิงรุก
- Dedifferentiated Chondrosarcoma — รุนแรงมาก พบในผู้สูงอายุ มักเกิดที่กระดูกแกนลำตัว/เชิงกราน และกระดูกยาว
ลักษณะพิเศษ: มีทั้งส่วนกระดูกอ่อนเกรดต่ำและส่วนมะเร็งเกรดสูงแบบอื่น (เช่น osteosarcoma) อยู่ติดกัน
พยากรณ์โรค: เลวที่สุดในกลุ่ม chondrosarcoma แพร่กระจายเร็ว อัตรารอดชีวิตต่ำ ต้องผ่าตัดขอบกว้างมากและอาจใช้เคมีบำบัดเสริม
อาการและวิธีตรวจวินิจฉัย
- อาการ: ปวดกระดูกเรื้อรัง มีก้อนนูนหรือบวม กดเจ็บ เคลื่อนไหวข้อจำกัด หรือกระดูกหักจากแรงน้อย (pathological fracture)
- เอกซเรย์ธรรมดา: เห็นหินปูนแบบวงแหวน–โค้ง (rings-and-arcs) และการกัดเซาะโพรงกระดูกลึก (endosteal scalloping) สงสัยร้ายเมื่อมีการทะลุเปลือกกระดูกหรือมีก้อนนอกกระดูก
- MRI: ประเมินการลุกลามในไขกระดูก เนื้อเยื่ออ่อน เส้นประสาท–หลอดเลือด และความหนาของหมวกกระดูกอ่อนใน osteochondroma
- CT: ช่วยเห็นการกลายเป็นหินปูน/กระดูกและโครงสร้างเปลือกกระดูกชัดเจนขึ้น
- สแกน/Functional imaging: อาจช่วยคัดกรองหลายตำแหน่ง แต่ต้องตีความอย่างระมัดระวังในเนื้องอกกระดูกอ่อน
- การตรวจชิ้นเนื้อ: ควรวางแผนโดยทีมศัลยแพทย์เนื้องอกกระดูก เพื่อไม่กระทบแนวผ่าตัดในอนาคต ใช้ร่วมกับภาพรังสีและตำแหน่งเพื่อจัดเกรดและวินิจฉัยแยกโรค
- การประเมินระยะโรค: ตรวจปอดด้วย CT และพิจารณาสืบค้นระบบกระดูกเพิ่มเติมหากสงสัยแพร่กระจาย
วิธีรักษา
- เฝ้าติดตาม: ใช้ในเนื้องอกไม่ร้ายที่ไม่มีอาการและความเสี่ยงต่ำ เช่น enchondroma ขนาดเล็ก โดยติดตามด้วยภาพรังสีเป็นระยะ
- ผ่าตัดขูดก้อน (Intralesional curettage) ± Adjuvant: ใช้กับ ACT/enchondroma/CMF ในแขน–ขา อาจเสริมด้วยโพลีเมทิลเมทาคริเลต (PMMA) เครื่องจี้เย็น/จี้ความร้อน และเติมกระดูกหรือซีเมนต์เพื่อลดการกลับเป็นซ้ำ
- ผ่าตัดตัดออกขอบกว้าง (Wide excision / En bloc resection): เป็นหลักใน chondrosarcoma เกรดกลาง–สูง โดยเฉพาะที่กระดูกแกนลำตัว/เชิงกราน อาจต้องผ่าตัดใหญ่หรือเปลี่ยนข้อ/ใส่กระดูกทดแทน
- เคมีบำบัด: Conventional chondrosarcoma มักดื้อต่อเคมีบำบัด ยกเว้น mesenchymal และ dedifferentiated chondrosarcoma ซึ่งอาจตอบสนอง
- รังสีรักษา: บทบาทจำกัด ใช้ในกรณีผ่าตัดไม่ได้ ขอบไม่พอ หรือเพื่อประคับประคอง อาจใช้รังสีพลังงานสูง/โปรตอนในบางกรณี
- ยามุ่งเป้า/วิจัย: มียาที่มุ่งกลไกเฉพาะ (เช่น ต้าน IDH pathway, mTOR, CDK, anti-angiogenic) แต่ยังอยู่ในขั้นวิจัย
- การติดตามระยะยาว: ตรวจซ้ำทางภาพและอาการเพื่อเฝ้าระวังการกลับเป็นซ้ำและการแพร่กระจาย ความถี่ขึ้นกับชนิดและเกรดของเนื้องอก
สรุป
เนื้องอกกระดูกอ่อนมีตั้งแต่ชนิดไม่ร้ายที่พบได้บ่อย เช่น osteochondroma และ enchondroma ไปจนถึงมะเร็งที่ก้าวรุนแรง เช่น dedifferentiated หรือ mesenchymal chondrosarcoma การวินิจฉัยแยกโรคต้องอาศัยข้อมูลจากอาการ การตรวจรังสี และพยาธิวิทยาร่วมกัน
การรักษาหลักคือการผ่าตัด โดยชนิดเกรดต่ำในแขน–ขามักใช้วิธีขูดก้อน ส่วนเกรดสูงหรืออยู่ในกระดูกแกนลำตัวควรตัดออกขอบกว้าง เคมีบำบัดและรังสีรักษามีบทบาทจำกัด ยกเว้นในบางชนิด การติดตามระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเฝ้าระวังการกลับเป็นซ้ำและการแพร่กระจาย