รอยโรคผิวหนังก่อนมะเร็ง (Precancerous skin lesion)

รอยโรคที่เกิดขึ้นบนผิวหนังส่วนใหญ่ไม่ใช่เนื้องอก และในบรรดาเนื้องอกก็มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นมะเร็ง อย่างไรก็ตาม มะเร็งผิวหนังสามารถรักษาได้ง่ายหากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก แต่จะรักษาได้ยากหรือแทบไม่ได้ผลเมื่อมีการแพร่กระจาย ดังนั้นการรู้จักรอยโรคที่มีโอกาสพัฒนาไปเป็นมะเร็งจึงสำคัญ เพื่อให้เราสามารถตรวจผิวหนังของตนเองและเข้ารับการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

ชนิดของรอยโรค

  1. Actinic keratosis
  2. เกิดจากการหนาตัวของ squamous cells มีลักษณะเป็นตุ่มหรือแผ่นแข็ง สีชมพู ผิวแห้งหยาบ ขรุขระ คล้ายหูด และมีสะเก็ดหนาปกคลุม เมื่อแกะสะเก็ดออกจะเกิดขึ้นใหม่ มักพบในบริเวณที่ถูกแดดมาก โดยเฉพาะในคนผิวขาว ผู้สูงอายุ และชาวตะวันตก ราว 5% อาจพัฒนาเป็นมะเร็ง Squamous cell carcinoma ได้

  3. Leukoplakia
  4. เป็นแผ่นสีขาวในช่องปาก เช็ดไม่ออก ไม่เจ็บ เมื่อใช้ลิ้นดุนจะรู้สึกผิวไม่เรียบ มักพบที่กระพุ้งแก้ม ข้างลิ้น หรือใต้ลิ้น ปัจจัยเสี่ยงได้แก่การระคายเคืองเยื่อบุช่องปากบ่อย ๆ เช่น สูบบุหรี่ อมเมี่ยง กินหมาก หรือดื่มแอลกอฮอล์ มีโอกาส 5–25% ที่จะพัฒนาเป็น Squamous cell carcinoma

  5. Actinic cheilitis
  6. การเปลี่ยนแปลงของ squamous cells ที่ริมฝีปาก โดยมากเกิดที่ริมฝีปากล่าง เริ่มจากริมฝีปากแห้ง แตก ย่น ต่อมาเกิดแผ่นแข็งขยายวงกว้าง มีสะเก็ดสีขาวปกคลุม และอาจมีแผลตื้นตรงกลาง ราว 5% อาจพัฒนาเป็นมะเร็ง Squamous cell carcinoma ที่ริมฝีปาก

  7. Cutaneous horn
  8. เป็นลักษณะเขาที่งอกออกจากผิวหนัง ขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน ยาวขึ้นช้ามาก อาจใช้เวลาหลายสิบปี มักพบในคนผิวขาวที่โดนแดดมากและมีอายุมากขึ้น ผิวหนังใต้ฐานเขามีโอกาสกลายเป็น Squamous cell carcinoma

  9. Bowen's disease
  10. เป็นมะเร็งผิวหนังชนิด Squamous cell carcinoma in situ (ระยะ 0) เซลล์มะเร็งยังอยู่ในชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น รอยโรคมีลักษณะแบน สีแดง ผิวมัน มีสะเก็ดบาง ๆ อาจสับสนกับโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (eczema) โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) หรือเชื้อรา หากรักษาด้วยยาทั่วไปแล้วยังไม่หาย ควรตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจ เพราะหากปล่อยไว้จะกลายเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดลุกลาม 100%

  11. Atypical moles, Dysplastic nevi


  12. เป็นไฝที่มีรูปร่างและลักษณะผิดปกติ ได้แก่

    • ขนาดใหญ่กว่า 6 มม. (ใหญ่กว่าหัวยางลบดินสอ)
    • รูปร่างไม่สมมาตร
    • มีหลายสีหรือหลายเฉดในไฝเดียวกัน
    • ขอบเขตไม่ชัดเจน
    • นูนขึ้นจากผิวปกติ
    • มีการโตขึ้น เปลี่ยนรูปร่าง หรือเปลี่ยนสีจากเดิม

    ไฝประเภทนี้มีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งผิวหนังชนิด Melanoma

  13. Lentigo maligna
  14. เป็นปานหรือรอยคล้ำที่เกิดขึ้นภายหลังและมีลักษณะผิดปกติอย่างน้อย 1 ข้อจาก 6 ข้อของไฝผิดปกติข้างต้น มีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งผิวหนังชนิด Melanoma

การวินิจฉัย

หากพบรอยโรคที่น่าสงสัย ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ โดยมักต้องตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา ซึ่งอาจตัดบางส่วนหรือตัดออกทั้งหมด

สรุป

รอยโรคผิวหนังก่อนมะเร็งเป็นสัญญาณเตือนที่ควรให้ความสำคัญ แม้จะไม่ใช่มะเร็งในทันที แต่บางชนิดมีความเสี่ยงสูงที่จะพัฒนาเป็นมะเร็งผิวหนังในอนาคต การสังเกตความผิดปกติบนผิวหนังของตนเองอย่างสม่ำเสมอ และเข้ารับการตรวจเมื่อพบความเปลี่ยนแปลง จะช่วยเพิ่มโอกาสรักษาให้หายขาดได้ตั้งแต่ระยะแรก