คลื่นไส้อาเจียน (Nausea vomiting)

อาการคลื่นไส้และอาเจียนเกิดจากกลไกเดียวกัน เมื่อยังอาการน้อยจะมีแค่คลื่นไส้ เมื่อเป็นมากขึ้นจึงมีอาเจียนตามมา ในทางการแพทย์จึงถือเสมือนเป็นอาการเดียวกัน

อาการอาเจียนโดยไม่มีคลื่นไส้ต้องแยกจากภาวะที่มีการขย้อนอาหารออก (regurgitation) ด้วยเหตุใดก็ตาม ภาวะนี้ไม่ถือว่าเป็นอาการคลื่นไส้อาเจียน

อาการคลื่นไส้อาเจียนส่วนมากจะพบร่วมกับอาการอื่น เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปวดท้อง ท้องเสีย อาการร่วมเหล่านี้จะช่วยบอกถึงสาเหตุของโรค

สาเหตุของอาการคลื่นไส้อาเจียน

  1. โรคทางระบบประสาท
    • มีการเพิ่มความดันในกระโหลกศีรษะ เช่น มีก้อน/ฝี/เลือดออกในสมอง
    • มีความผิดปกติที่ระบบการทรงตัว เช่น เมารถ เมาคลื่น โรค Ménière
    • โรคไมเกรน
    • โรคทางจิต เช่น Bulimia nervosa
  2. โรคในช่องท้อง
    • ระบบย่อยอาหาร เช่น โรคกระเพาะ อาหารเป็นพิษ ท้องอืด ลำไส้ไม่ทำงาน ลำไส้อักเสบ ลำไส้อุดตัน ถุงน้ำดีอักเสบ ตับอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ โรคมะเร็ง ฯลฯ
    • ระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคกรวยไตอักเสบ
  3. ความผิดปกติทางเมตาบอลิก
    • ภาวะไตวาย
    • ภาวะตับแข็ง
    • ภาวะเสียสมดุลเกลือแร่ในเลือด เช่น แคลเซียมในเลือดสูง โปแตสเซียมในเลือดสูง โซเดียมในเลือดต่ำ
    • โรคเบาหวานที่มีน้ำตาลในเลือดสูง
    • โรคระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมหมวกไตไม่ทำงาน ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไม่พอ
  4. ภาวะอื่น ๆ
    • แพ้ท้อง
    • แพ้ยา
    • แพ้อาหาร
    • พิษสุรา
    • โรคติดเชื้อโดยทั่วไป
    • กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
    • ในเด็กเล็กอาจอาเจียนโดยไม่ทราบสาเหตุ

แนวทางการตรวจรักษา

สิ่งแรกคือผู้ป่วยควรให้ประวัติอาการร่วมให้ละเอียด ความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ใด ลักษณะของสิ่งที่อาเจียนออกมา การดำเนินโรค อาการใดเกิดก่อน-หลัง ความเร็วและความรุนแรง การใช้ยา โรคประจำตัว น้ำหนักตัว พฤติกรรมที่ผ่านมา

จากนั้นแพทย์จะตรวจร่างกายโดยละเอียด ถ้าประวัติค่อนข้างชัดว่าเป็นจากสาเหตุใดก็จะตรวจสอบไปในทางนั้น ถ้ายังไม่แน่ชัดก็จำเป็นต้องตรวจเลือด เอกซเรย์ หรือตรวจอย่างอื่นเพิ่ม การตรวจส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล

นอกจากการตรวจเพื่อหาสาเหตุแล้ว แพทย์อาจยังต้องตรวจเลือดเพื่อหาผลกระทบจากการอาเจียนด้วย ซึ่งมักเป็นภาวะเสียสมดุลทางเกลือแร่ หากพบก็จำเป็นต้องรักษาควบคู่ไปกับการรักษาสาเหตุด้วย