ปัญหารอบเดือน (Menstrual problems)

รอบเดือน (หรือระดู/ประจำเดือน) คือเลือดที่ออกเป็นประจำทุกเดือนในสตรีวัยเจริญพันธุ์ โดยทั่วไปเริ่มตั้งแต่อายุประมาณ 12–52 ปี หนึ่งรอบมีความยาวเฉลี่ย 21–35 วัน และมักค่อนข้างใกล้เคียงกันในแต่ละคน เลือดประจำเดือนคือผนังมดลูกที่หลุดลอกเมื่อไม่มีการฝังตัวของไข่

การบันทึกปฏิทินรอบเดือนเป็นประจำจะช่วยให้ผู้หญิงเข้าใจวงจรของตนเอง คาดการณ์การมาของรอบเดือนในเดือนถัดไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การนัดหมาย หรือการวางแผนมีบุตร

จากตัวอย่างปฏิทิน รอบเดือนของผู้หญิงรายนี้ยาว 26 วัน (นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนจนถึงวันแรกของครั้งถัดไป) จึงสามารถคะเนว่าเดือนถัดไปรอบเดือนจะเริ่มวันที่ 8 เมษายน ระยะเวลาหลังไข่ตกจนถึงมีประจำเดือนค่อนข้างคงที่ คือประมาณ 14 วัน ดังนั้นเมื่อย้อนจากวันที่ 8 เมษายน 14 วัน จะพบว่าไข่ตกวันที่ 25 มีนาคม

ไข่มีชีวิตอยู่ได้เพียงประมาณ 48 ชั่วโมง หากไม่ถูกผสมจะเสื่อมสลาย ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะค่อย ๆ ลดลง ทำให้ผนังมดลูกฝ่อลงและหลุดลอกกลายเป็นประจำเดือน ผู้หญิงจำนวนมากที่รู้สึกว่ารอบเดือน “ไม่สม่ำเสมอ” มักพบว่าหลังเริ่มจดบันทึกอย่างเป็นระบบแล้ว จะเห็นรูปแบบรอบเดือนของตนเองได้ชัดเจนขึ้น

ความแปรปรวนของรอบเดือน

แม้รอบเดือนปกติจะมีรูปแบบทั่วไป แต่ในความเป็นจริงสามารถแปรปรวนได้ตามสุขภาพ ความเครียด การพักผ่อน หรือการใช้ชีวิตของแต่ละเดือน เพื่อให้แพทย์สื่อสารได้อย่างชัดเจนจึงมีการกำหนดนิยามของ“ความผิดปกติ” แต่ต้องเข้าใจว่า นิยามเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่มีลักษณะแตกต่างจะมีโรคเสมอไป บางคนอาจมีรูปแบบเฉพาะตัวโดยไม่พบความผิดปกติใด ๆ

ในปี ค.ศ. 2012 องค์การ FIGO (International Federation of Gynecology and Obstetrics) แนะนำให้เลิกใช้ศัพท์เดิมบางคำซึ่งอาจทำให้ผู้หญิงกังวล และได้เสนอคำศัพท์ใหม่ที่ชัดเจนกว่า (สีเขียวในตาราง) พร้อมระบุศัพท์เก่าที่ไม่แนะนำให้ใช้ (สีแดง)

ตารางที่ 1 ความแปรปรวนของรอบเดือนตาม FIGO ปี 2012
ลักษณะนิยามศัพท์เรียกความแปรปรวนศัพท์เรียกความผิดปกติ
1. ระยะเวลา/รอบ24-38 วัน (เดิมใช้ 21-35 วัน)ช่วงรอบเดือนทั่วไป
Normal menstrual frequency
-
< 24 วันรอบเดือนถี่
Frequent menstruation
Polymenorrhea, Epimenorrhea
> 38 วันรอบเดือนห่าง
Infrequent menstruation
Oligomenorrhea
2. ความสม่ำเสมอระยะเวลาแต่ละรอบต่างกันไม่เกิน 20 วันรอบเดือนสม่ำเสมอ
Regular menstruation
-
ต่างกันเกิน 20 วันรอบเดือนไม่สม่ำเสมอ
Irregular menstruation
Metrorrhagia
3. จำนวนวันที่มีระดู4.5-8.0 วัน (เดิมใช้ 3-7 วัน)ระดูนานปกติ
Normal menstrual duration
-
< 4.5 วันระดูสั้น
Shortened menstruation
Hypomenorrhea
> 8.0 วันระดูยาว
Prolonged menstruation
Hypermenorrhea
4. ปริมาณเลือด20-80 มล.ระดูออกปกติ
Normal menstrual volumn
-
< 20 มล.ระดูออกน้อย
Light menstruation
Hypomenorrhea, Oligomenorrhea
> 80 มล.ระดูออกมาก
Heavy menstruation
Menorrhagia

ศัพท์อื่นที่ FIGO ไม่แนะนำให้ใช้ เช่น Epimenorrhagia (ถี่และออกมาก), Menometrorrhagia (ไม่สม่ำเสมอและออกมาก), Uterine hemorrhage, Dysfunctional uterine bleeding (DUB), Functional uterine bleeding, Metropathica hemorrhagica



นิยามศัพท์เกี่ยวกับรอบเดือนของ FIGO

FIGO ยังได้ให้นิยามเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะที่พบได้บ่อย ซึ่งบางอย่างอาจเป็นเพียงความแปรปรวนปกติในบางคน แต่ในอีกคนอาจต้องตรวจหาสาเหตุ

รอบเดือนมาก่อนวัย (Precocious Menstruation) หมายถึง การมีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 9 ปี มักสัมพันธ์กับอาการเข้าสู่วัยสาวก่อนวัย

รอบเดือนแรกไม่มา (Primary amenorrhea) หมายถึง เด็กอายุครบ 16 ปีแล้วยังไม่มีประจำเดือนครั้งแรก แม้การพัฒนาทางกายอื่นจะปกติก็ตาม

รอบเดือนขาดหายไป (Secondary amenorrhea) หมายถึง การขาดประจำเดือนเกิน 90 วันหลังจากเคยมีรอบเดือนมาก่อน

รอบเดือนถี่ (Frequent Menstrual Bleeding)** หมายถึง มีประจำเดือนมากกว่า 4 รอบภายใน 90 วัน

รอบเดือนห่าง (Infrequent Menstrual Bleeding)** หมายถึง มีประจำเดือนเพียง 1–2 รอบภายใน 90 วัน

ภาวะรอบเดือนถี่–ห่างส่วนใหญ่ถือเป็นความแปรปรวนตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในเด็กสาวช่วง 1–2 ปีแรกที่เริ่มมีประจำเดือน เมื่อรังไข่ยังทำงานไม่สมบูรณ์จึงอาจมีไข่ตกไม่สม่ำเสมอ ทำให้ประจำเดือนห่างหรือมามากนานกว่าปกติ เมื่อรังไข่พัฒนาสมบูรณ์ขึ้น รอบเดือนก็มักกลับมาเป็นปกติ

รอบเดือนไม่สม่ำเสมอ (Irregular Menstrual Bleeding, IrregMB)** หมายถึง รอบเดือนที่ถี่บ้าง ห่างบ้าง มีความคลาดเคลื่อนระหว่างรอบเกิน 20 วัน มักสัมพันธ์กับภาวะไม่ตกไข่จากความเครียดหรือวิถีชีวิต แต่หากไม่มีปัจจัยชัดเจนหรือมีอาการผิดปกติอื่นร่วม ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ

ระดูสั้น (Shortened Menstrual Bleeding)** หมายถึง การมีเลือดออกในแต่ละรอบเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 วัน ภาวะนี้พบได้น้อย และโดยมากตรวจไม่พบความผิดปกติที่ชัดเจน

ระดูยาว (Prolonged Menstrual Bleeding)** หมายถึง การมีเลือดออกในแต่ละรอบยาวนานเกิน 8 วัน โดยที่รอบเดือนยังคงมาสม่ำเสมอ อาจสัมพันธ์กับความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด

ระดูออกน้อย (Light Menstrual Bleeding)** หมายถึง ปริมาณเลือดที่ออกในแต่ละรอบมีจำนวนน้อย ทั้งนี้ขึ้นกับความรู้สึกของผู้ป่วยเอง หากลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน มักถือว่าเป็นภาวะปกติ

ระดูออกมาก (Heavy Menstrual Bleeding, HMB)** หมายถึง ปริมาณเลือดที่ออกในแต่ละรอบมากจนส่งผลต่อร่างกาย (เช่น ภาวะโลหิตจาง) จิตใจ (เช่น ความกังวล) หรือการใช้ชีวิตประจำวัน (เช่น ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 1–2 ชั่วโมง) อาจเกิดขึ้นเพียงลักษณะเดียว หรือหลายลักษณะร่วมกัน

ระดูออกมากและมายาว (Heavy and Prolonged Menstrual Bleeding, HPMB)** หมายถึง เลือดที่ออกในแต่ละรอบมีทั้งปริมาณมากและยาวนานเกิน 8 วัน พบได้น้อยกว่า HMB แต่มีความสำคัญ เนื่องจากมักบ่งบอกภาวะผิดปกติที่ชัดเจนกว่า สาเหตุและการตอบสนองต่อการรักษามักต่างจาก HMB

** ใช้คำว่า “Menstrual Bleeding” แทน “menstruation” ตามคำแนะนำของ FIGO เพราะภาวะเหล่านี้จัดอยู่ได้ทั้งในกลุ่มความแปรปรวนและความผิดปกติของการมีประจำเดือน



เลือดออกผิดปกติจากมดลูก (Abnormal Uterine Bleeding, AUB) หมายถึง ภาวะที่มีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติในแง่ปริมาณ ระยะเวลา หรือความถี่ ในสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ โดยอาจเกิดขึ้นจำนวนมากในครั้งเดียวจนต้องรักษาอย่างเร่งด่วน (Acute AUB) หรือเกิดทีละน้อยต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน (Chronic AUB) ปัจจุบันคำนี้ใช้แทน “Dysfunctional uterine bleeding (DUB)” และเป็นภาวะที่ต้องสืบหาสาเหตุ

โดยทั่วไป เลือดประจำเดือนร้อยละ 90 จะไหลมากที่สุดใน 3 วันแรก โดยมากสุดในวันที่ 1–2 หากการไหลของเลือดผิดไปจากลักษณะนี้ ถือเป็น AUB ทั้งหมด

FIGO แนะนำให้ประเมินสาเหตุของ AUB ตามระบบ PALM–COEIN โดย PALM หมายถึงสาเหตุจากความผิดปกติทางโครงสร้างของมดลูก ได้แก่ Polyps, Adenomyosis, Leiomyoma, Malignancy ส่วน COEIN หมายถึงกลุ่มที่ไม่พบความผิดปกติทางโครงสร้าง ได้แก่ Coagulopathy, Ovulatory disorders, Endometrial hyperplasia, Iatrogenic, และ Not Classified

ปวดประจำเดือน (Dysmenorrhea) หมายถึง อาการปวดท้องน้อยในช่วงวันแรก ๆ ของการมีประจำเดือน ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อย แต่มักมีความรุนแรงแตกต่างกัน หากปวดรุนแรงทุกเดือน ควรตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม

กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual Syndrome, PMS) หมายถึง อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล่วงหน้า 5–7 วันก่อนประจำเดือนมา และจะดีขึ้นเมื่อประจำเดือนมาวันแรก อาการพบได้บ่อย เช่น ท้องอืด ตัวบวม คัดเต้านม ท้องผูก ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หงุดหงิด ซึมเศร้า หรือไม่มีสมาธิ พบว่าผู้หญิงร้อยละ 75 มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและหายไปเองเมื่อมีประจำเดือน

กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual Dysphoric Disorder, PMDD) หมายถึง อาการทางอารมณ์และจิตใจที่เกิดขึ้น 5–7 วันก่อนประจำเดือนมา และจะดีขึ้นเมื่อมีประจำเดือน โดยอาการรุนแรงจนรบกวนการทำงานหรือการดำเนินชีวิต เช่น อารมณ์แปรปรวนมาก หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า เครียด ไม่มีสมาธิ ไม่สนใจสิ่งรอบตัว หรือมีการเปลี่ยนแปลงด้านการกินและการนอน พบได้ประมาณร้อยละ 5 ของผู้หญิง และมักต้องรักษาด้วยยาในช่วงมีอาการ

กลุ่มอาการวัยทอง (Menopausal Syndrome) หมายถึง ความแปรปรวนทางกายและจิตใจของสตรีอายุประมาณ 45–59 ปี จากการลดลงของฮอร์โมนเพศ อาการอาจเริ่มก่อน ระหว่าง หรือหลังหมดประจำเดือน และอาจเป็นเพียงไม่กี่สัปดาห์จนถึงหลายปี

เลือดออกหลังวัยหมดระดู (Postmenopausal Bleeding, PMB) หมายถึง การมีเลือดออกจากช่องคลอดหลังจากที่ประจำเดือนหยุดไปแล้วนาน 1 ปีขึ้นไป ถือเป็นอาการที่ต้องตรวจหาสาเหตุอย่างจริงจัง

ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับรอบเดือนเหล่านี้ ได้จัดแยกไว้เป็นหัวข้อย่อยในเมนู “รอบเดือนผิดปกติ” ด้านซ้ายมือเพื่อความสะดวกในการศึกษาเพิ่มเติม

สรุป

รอบเดือนเป็นกระบวนการทางชีววิทยาที่มีความหลากหลายระหว่างบุคคล การบันทึกอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เข้าใจรูปแบบร่างกายของตนเองได้ดีขึ้น นิยามและคำศัพท์จาก FIGO ช่วยให้การประเมินอาการต่าง ๆ ชัดเจนขึ้น แยกได้ว่าอะไรเป็น “ความแปรปรวนปกติ” และอะไรควรตรวจเพิ่มเติม หากพบความผิดปกติที่รบกวนการใช้ชีวิต เจ็บปวดมากผิดปกติ หรือมีอาการระบบอื่นร่วม ควรเข้ารับการประเมินจากแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางดูแลที่เหมาะสม