เม็ดเลือดขาวมาก (สูง) (Leukocytosis)
จำนวนเม็ดเลือดขาวที่ถือว่า “ปกติ” แตกต่างกันตามอายุ ภาวะตั้งครรภ์ และเกณฑ์ของแต่ละสถาบัน โดยทั่วไปมักอยู่ที่ 5,000–10,000 cells/μL (5–10 × 109/L) เช่น ห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลศิริราชใช้ช่วง 4,400–10,300 cells/μL (4.4–10.3 × 109/L)
สำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ นิยามของ ภาวะเม็ดเลือดขาวสูง คือมีจำนวนเม็ดเลือดขาว มากกว่า 11,000/μL (11.0 × 109/L)
หากสูงถึง 50,000–100,000/μL เรียกว่า “Leukemoid Reaction”
และถ้ามากกว่า 100,000/μL ถือเป็นภาวะฉุกเฉิน เพราะเลือดจะหนืดข้นจนไหลเวียนได้ยาก มักพบในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว
เม็ดเลือดขาวรวมที่สูงผิดปกติจำเป็นต้องแยกดูว่า “ชนิดใด” เป็นตัวที่เพิ่มขึ้น โดยคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ใน CBC คูณกับจำนวนเม็ดเลือดขาวทั้งหมด จึงจะได้ “absolute count” ของแต่ละชนิดเพื่อใช้วินิจฉัยแยกโรค
ภาวะนิวโตรฟิลสูง (Neutrophilia)
เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด หมายถึง จำนวนนิวโตรฟิล > 7,000/μL (7.0 × 109/L) สาเหตุสำคัญ ได้แก่
- การติดเชื้อแบคทีเรีย
- การอักเสบ เช่น ข้ออักเสบ ลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ หลอดเลือดอักเสบ (vasculitis)
- ผลจากยา เช่น สเตียรอยด์, beta-agonists, lithium, epinephrine, colony-stimulating factors
- ภาวะเครียดทางกายอย่างรุนแรง เช่น ออกกำลังกายหนัก หลังผ่าตัด หลังชัก หลังขาดออกซิเจน ถูกไฟไหม้ตัว
- ภาวะเสียเลือด
- ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก
- ภาวะ immune thrombocytopenia
- ภาวะฟื้นตัวของไขกระดูกหลังถูกกดจากยา
- การสูบบุหรี่
- มีครรภ์
- มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาว
- ความผิดปกติทางเมตาบอลิก เช่น DKA, Thyrotoxicosis, Uremia
- การตายของเนื้อเยื่อ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตาย เนื้อสมองตายจากหลอดเลือดอุดตัน
- โรคทางพันธุกรรม เช่น Hereditary/chronic idiopathic
neutrophilia, Down syndrome, Leukocyte adhesion deficiency
- ภาวะไม่มีม้ามหรือม้ามทำงานผิดปกติ
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ “การติดเชื้อแบคทีเรีย” ผู้ป่วยมักมีไข้และอาการของอวัยวะที่ติดเชื้อร่วมด้วย ความรุนแรงประเมินได้จากระดับนิวโตรฟิลที่สูงขึ้นร่วมกับการพบ left shift คือมีตัวอ่อนของนิวโตรฟิล (band form) ออกมาในเลือด ± มี toxic granules ในไซโตพลาสซึม หากมีไข้ อาการของอวัยวะที่ป่วย และนิวโตรฟิลสูงร่วมกัน แพทย์มักเริ่มยาปฏิชีวนะก่อน
ภาวะลิมโฟไซต์สูง (Lymphocytosis)
หมายถึง จำนวนลิมโฟไซต์ > 4,500/μL (4.5 × 109/L) สาเหตุได้แก่
- การติดเชื้อไวรัส ปรสิต และแบคมีเรียบางชนิด เช่น ไอกรน วัณโรค ริกเค็ทเซีย บาบีเซีย บาร์โตเนลลา
- การสูบบุหรี่
- ภาวะไม่มีม้ามหรือม้ามไม่ทำงาน
- ความเครียดอย่างมาก เช่น ออกกำลังกายหนัก หลังผ่าตัด หลังชัก หลังขาดออกซิเจน ถูกไฟไหม้ตัว
- Autoimmune thyroiditis, Hypothyroidism
- โรคภูมิคุ้มกันอื่น ๆ
- มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- ภาวะที่ร่างกายปฏิเสธอวัยวะที่นำมาปลูกถ่าย (Graft rejection)
สาเหตุที่พบบ่อยคือ “การติดเชื้อไวรัส” ซึ่งมักพบในเด็ก ผู้ป่วยมักมีไข้และอาการของอวัยวะที่ติดเชื้อร่วมด้วย โรคมักหายได้เองใน 1–2 สัปดาห์ และการให้ยาปฏิชีวนะในช่วงแรกไม่ช่วยให้ดีขึ้น
ภาวะอีโอสิโนฟิลสูง (Eosinophilia)
หมายถึง จำนวนอีโอสิโนฟิล > 500/μL (0.5 × 109/L) สาเหตุได้แก่
- โรคภูมิแพ้ เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ผิวหนัง
- ติดเชื้อปรสิต เช่น มีพยาธิในทางเดินอาหาร ตับ ปอด สมอง ฯลฯ
- ติดเชื้อรา โดยเฉพาะเชื้อราที่ปอด
- แพ้ยา
- ช่วงฟื้นตัวหลังการติดเชื้อบางชนิด เช่น scarlet fever, viral infection, chlamydial infection
- โรคผิวหนังบางชนิด เช่น dermatitis herpetiformis, pemphigus, erythema multiforme
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน
- มะเร็งไขกระดูก
- โรคของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue diseases)
- Churg-Strauss syndrome
- Hypereosinophilic syndrome
- PIE syndrome — ปอดอักเสบทั้งสองข้าง มีตับม้ามโต จากเชื้อหลายชนิด
สาเหตุที่พบบ่อยคือโรคภูมิแพ้และการติดเชื้อปรสิต มักทำให้ระดับอีโอสิโนฟิลขึ้นไม่มาก หากสูงเกิน 1,500/μL ต้องพิจารณามะเร็งไขกระดูกหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองร่วมด้วย
ภาวะเบโซฟิลสูง (Basophilia)
หมายถึง จำนวนเบโซฟิล > 100/μL (0.1 × 109/L) สาเหตุได้แก่ภาวะภูมิแพ้ หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว (กรณีหลังมักพบ > 200/μL และเม็ดเลือดขาวรวมเกิน 30,000/μL)
ภาวะโมโนไซต์สูง (Monocytosis)
หมายถึง จำนวนโมโนไซต์ > 880/μL (0.88 × 109/L) สาเหตุได้แก่
- การติดเชื้อ เช่น วัณโรค, subacute bacterial endocarditis, brucellosis, ซิฟิลิส, infectious mononucleosis, มาลาเรีย, ปรสิต, ริกเค็ทเซีย
- มะเร็ง เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งอวัยวะอื่นกระจายเข้าไขกระดูก และ paraneoplastic leukemoid reaction
- ช่วงฟื้นตัวของภาวะนิวโตรฟิลต่ำ (neutropenia)
- โรคภูมิคุ้มกัน เช่น SLE, rheumatoid arthritis, inflammatory bowel diseases
- ภาวะไม่มีม้ามหรือม้ามไม่ทำงาน
- โรค sarcoidosis
- กลุ่มโรค lipid storage diseases
แนวทางการวินิจฉัย
การวินิจฉัยภาวะเม็ดเลือดขาวสูงต้องอาศัยข้อมูลหลายด้านร่วมกัน ได้แก่
- อาการทางคลินิก
- ระยะเวลาที่เม็ดเลือดขาวสูงอยู่
- ความผิดปกติของเม็ดเลือดชนิดอื่นใน CBC
- การมีอาการบ่งชี้โรคมะเร็ง
อาการที่ชวนให้คิดถึงโรคมะเร็ง ได้แก่
- มีจ้ำเลือดหรือเลือดออกง่าย
- ไข้ > 38° C
- เหงื่อออกกลางคืน
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีต่อมน้ำเหลืองโต หรือม้ามโต
- เม็ดเลือดขาวเกิน 30,000/μL (หาก > 100,000/μL ต้องปรึกษาแพทย์โลหิตวิทยาตรวจไขกระดูกทันที)
- มีความผิดปกติของเม็ดเลือดอื่นใน CBC เช่น โลหิตจาง เกล็ดเลือดต่ำหรือสูง มีตัวอ่อนออกมาในกระแสเลือด
หากไม่มีอาการข้างต้นให้มองหาโรคติดเชื้อก่อน และอาจติดตามผล CBC ทุก 1 สัปดาห์ อีก 1-2 ครั้ง ทุก 1 สัปดาห์
สรุป
ภาวะเม็ดเลือดขาวสูง (Leukocytosis) เป็นสัญญาณของร่างกายที่กำลังตอบสนองต่อความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ การอักเสบ ความเครียดทางกาย โรคภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือด การประเมินไม่ควรดูเพียงตัวเลขเม็ดเลือดขาว แต่ต้องพิจารณาว่า “ชนิดใดสูง”, ระยะเวลาที่เป็น, อาการร่วม และผลตรวจอื่น ๆ เพื่อแยกสาเหตุอย่างถูกต้อง
ในหลายกรณี เช่น การติดเชื้อไวรัสหรือการอักเสบเล็กน้อย อาการอาจดีขึ้นเอง แต่หากมีอาการผิดปกติรุนแรง เช่น ไข้สูงเรื้อรัง เลือดออกง่าย น้ำหนักลด หรือเม็ดเลือดขาวสูงมากผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม เพราะอาจเกี่ยวข้องกับโรคเลือดหรือมะเร็งบางชนิด
บรรณานุกรม
- "Complete Blood Count in Primary Care." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา bpac.org.nz (1 ธันวาคม 2568).
- "HEMATOLOGY COMPLETE BLOOD COUNT (CBC)." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา meddean.luc.edu. (1 ธันวาคม 2568).
- Lyrad K. Riley, et al. 2015. "Evaluation of Patients with Leukocytosis." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Am Fam Physician. 2015;92(11):1004-1011. (1 ธันวาคม 2568).