กรด-ด่างของปัสสาวะ (Urine pH)
กรด-ด่างของปัสสาวะบอกถึงความสามารถของไตในการรักษาสมดุลกรดด่างในร่างกาย ในระหว่างวันที่เรารับประทานอาหาร กระเพาะอาหารต้องหลั่งกรดไฮโรคลอริก (HCl) มาย่อยอาหาร ท่อไตจะขับไฮโดรเจนไอออน (H+) ออกน้อยลง ปัสสาวะจึงเป็นด่างเล็กน้อย (โดยเฉพาะช่วงหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง) ในตอนกลางคืน ท่อไตจะทำหน้าที่กำจัด H+ ที่เกิดจากเมตาบอลิซึมของร่างกายทิ้งออกทางปัสสาวะ ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าจึงมีความเป็นกรดสูงสุด
ค่า pH ในปัสสาวะจึงมีช่วงกว้างตั้งแต่ 4.6-8.0 แต่ที่เหมาะสมในช่วงกลางวันคือ pH 6.5-7.5 และตอนเช้าหลังตื่นนอนคือ pH 5.0-6.0
ปัสสาวะเป็นด่างมากไป (Urine pH > 7.5)
ธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียมจะรวมตัวกับฟอสเฟตได้ง่ายในปัสสาวะที่เป็นด่าง ทำให้เกิดนิ่วชนิดแคลเซียมฟอสเฟต แคลเซียมคาร์บอเนต แมกนีเซียมฟอสเฟต
สาเหตุที่ปัสสาวะเป็นด่างมากไป
- มีการติดเชื้อแบคทีเรีย Proteus หรือ Pseudomonas ในทางเดินปัสสาวะ
- อาเจียนมาก หรือต่อสาย NG suction
- ไตวาย
- โรคไตชนิด Renal tubular acidosis (มักมีโพแทสเซียมในเลือดต่ำด้วย)
- มีภาวะ Respiratory alkalosis จากการหายใจเร็วเกินไป (hyperventilation)
- ใช้ยาบางชนิด เช่น Streptomycin, Neomycin, Kanamycin, NaHCO3, K-citrate, Acetazolamide
- หลังกินอาหารมังสวิรัติ
- ยืนเป็นเวลานาน
ในภาวะที่เป็นพิษจากยาแอสไพริน ต้องทำให้ปัสสาวะเป็นด่างเพื่อเร่งการขับยาออกทางปัสสาวะ
ปัสสาวะเป็นกรดมากไป (Urine pH < 5.0)
ธาตุบางชนิดจะตกผลึกหรือรวมตัวกันเป็นนิ่วที่ไต ในปัสสาวะที่เป็นกรด เช่น ยูเรต ซิสตีน แคลเซียมออกซาเลต ผลึกซัลโฟนาไมด์ (จากยาซัลฟา)
สาเหตุที่ปัสสาวะเป็นกรดมากไป
- ปัสสาวะครั้งแรกหลังตื่นนอนตอนเช้า
- ภาวะที่ดื่มน้ำน้อยจนปัสสาวะเข้มข้นมาก
- กินอาหารจำพวกเนื้อสัตว์มาก
- กินวิตามินซีเสริมอาหารมากเกินไป
- มีไข้
- มีการติดเชื้อแบคทีเรีย E. coli ในทางเดินปัสสาวะ
- มีภาวะกรดในเลือด เช่น DKA, ไตวาย, ท้องเสีย, อดอาหาร, หายใจช้าจนคาร์บอนไดออกไซด์คั่ง
- มีวัณโรคไต
- ใช้ยาบางชนิด เช่น NH4Cl, Mandelic acid
บรรณานุกรม
- "Urine Part 6:- Urine pH (pH Significance in Urine)." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Labpedia.net. (30 สิงหาคม 2563).
- "Urine." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา pH Balance in the Human Body. (30 สิงหาคม 2563).
- Jeff A. Simerville, et al. 2005. "Urinalysis: A Comprehensive Review." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Am Fam Physician. 2005 Mar 15;71(6):1153-1162. (26 สิงหาคม 2563).
- "Urinalysis." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา AACC (26 สิงหาคม 2563).
- "Urine Crystals formation based on Urine pH." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา medical-labs.net (30 สิงหาคม 2563).