การฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ
(Coronary angiography, Cardiac catheterization)
การฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจเป็นการดูโครงสร้างภายในของหลอดเลือดแดงโคโรนารี 2 เส้น ซึ่งแยกออกจากโคนของหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตา ลงไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ แขนงของหลอดเลือดแดงโคโรนารีได้แก่
- โคโรนารีเส้นขวา (Right coronary artery, RCA) เลี้ยงหัวใจห้องล่างขวา, ห้องบนขวา, SA node, AV node, และมีแขนงอ้อมไปด้านหลัง (Posterior Descending Artery, PDA) เลี้ยงผนังด้านล่างของหัวใจห้องล่างซ้าย โคโรนารีเส้นขวามีความสำคัญต่อการทำงานของหัวใจเพียงหนึ่งในสาม
- โคโรนารีเส้นซ้าย (Left coronary artery, LCA) เป็นเส้นเลือดหลักที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้าย, ห้องบนซ้าย, SA node, AV node โคโรนารีเส้นซ้ายช่วงต้น (Left main coronary artery) จะซ่อนอยู่หลัง Pulmonary artery (ดูรูป) เมื่อโผล่ออกมาจะแตกแขนงเป็น Left circumflex (LCx) กับ Left anterior descending artery (LAD) โคโรนารีเส้นซ้ายมีความสำคัญต่อการทำงานของหัวใจมาก หากอุดตันที่ Left main โอกาสเกิดหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและเสียชีวิตมีสูง
การฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจยังสามารถวัดความดันภายในหัวใจห้องล่างซ้าย ห้องบนซ้าย และดูความผิดปกติของหลอดเลือดแดงเอออร์ตาได้ด้วย
ข้อบ่งชี้ในการฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ
- มีอาการแน่นหน้าอกหรือคลื่นไฟฟ้าหัวใจสงสัยว่าจะมีหลอดเลือดหัวใจตีบ แต่มีข้อห้ามในการตรวจกล้ามเนื้อหัวใจขณะออกกำลัง
- พบภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลัง (Exercise stress test)
- มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute MI) มักทำพร้อมกับการใส่บอลลูนหรือสเต๊นขยายเส้นเลือดหัวใจ (PCI)
- สงสัยความผิดปกติของหลอดเลือดหลังการบาดเจ็บที่ทรวงอก
- เพื่อเตรียมการผ่าตัดหัวใจทุกชนิด
- ติดตามผลการรักษาหลังใส่บอลลูนขยายเส้นเลือดหัวใจ (percutaneous coronary intervention) หรือ ภายหลังการผ่าตัดต่อเส้นเลือดหัวใจ (bypass graft)
- ติดตามการเปลี่ยนแปลงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเรื้อรังที่รักษาด้วยยา
- มีโรคอื่นที่ส่งผลต่อหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ เช่น thoracic aortic dissection, thoracic aortic aneurysm, hypertrophic cardiomyopathy, Kawasaki disease ที่มี coronary artery aneurysms จาก echocardiography
ข้อห้ามในการตรวจถ้าไม่จำเป็น (Relative contraindications)
ไม่มีข้อห้ามเด็ดขาดในการฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ มีแต่ภาวะที่ไม่ควรทำหากไม่จำเป็น เช่น
- ไตวายเรื้อรัง/เฉียบพลัน (ต้องตรวจเลือดดูการทำงานของไตก่อนทุกราย)
- มีประวัติการแพ้สารทึบรังสี
- มีโรคหอบหืดรุนแรง
- หญิงตั้งครรภ์หรือสงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์
- มีเลือดออกง่าย
- มีภาวะหัวใจล้มเหลวที่ร่างกายพยุงไว้ไม่ได้แล้ว (decompensated congestive heart failure)
- มีความดันโลหิตสูงขั้นวิกฤต
- มีอัมพาตจากเส้นเลือดสมองตีบหรือแตก
- มีหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ควบคุมยาก
- มีเลือดออกในทางเดินอาหาร
- มีการติดเชื้อที่ยังคุกรุ่นอยู่ (active infection)
- ผู้ป่วยไม่สามารถให้ความร่วมมือขณะตรวจ
ขั้นตอนการตรวจ
ในการฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ แพทย์จะใส่สายสวนเข้าไปในหลอดเลือดแดงบริเวณขาหนีบหรือที่ข้อพับแขน แล้วสอดสายเข้าไปจนถึงโคนของเอออร์ตา ระหว่างนี้จะเปิดเครื่องเอกซเรย์บันทึกภาพเคลื่อนไหวเพื่อให้เห็นตำแหน่งของสายสวน จากนั้นจะฉีดสารทึบรังสีเข้าตรงรูเปิดของโคโรนารีเส้นซ้ายและขวา เมื่อสารไหลเข้าไปในเส้นเลือดโคโรนารีก็จะเห็นเงาภายในหลอดเลือด แพทย์และเจ้าหน้าที่จะช่วยกันเอียงมุมของเครื่องเอกซเรย์ เพื่อให้เห็นแขนงทุกเส้นของโคโรนารี แพทย์จะแยงสายสวนที่มีอัลตราซาวด์ติดไว้ที่ปลาย (IVUS) คอยวัด fractional flow reserve (FFR) เพื่อประเมินความรุนแรงของเส้นเลือดที่ตีบ หากการตีบตันพอจะถ่างขยายได้ แพทย์ก็จะทำการถ่างให้ เรียกว่าทำ Percutaneous coronary intervention (PCI) หากทำไม่ได้ก็จะหยุด แล้วปรึกษาศัลยแพทย์หลอดเลือดเพื่อผ่าตัดต่อเส้นเลือดแทน
ในระหว่างที่มีการฉีดสารทึบรังสี ผู้ป่วยจะรู้สึกตัวอุ่นขึ้น ชีพจรเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตลดลงเล็กน้อย บางคนอาจรู้สึกอยากอาเจียนหรืออยากไอ หากมีอาการมากสามารถบอกแพทย์ได้ ระยะเวลาในการตรวจทั้งสิ้นประมาณ 30-60 นาที
การเตรียมตัวก่อนตรวจ
- หยุดยาแอสไพริน และยาต้านการแข็งตัวของเลือดทุกชนิด 7-10 วันก่อนตรวจ
- เข้าพักในโรงพยาบาล 1 วันก่อนวันตรวจ เพื่อประเมินสภาพผู้ป่วยก่อนทำหัตถการเสี่ยง
- งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนทำการตรวจ
- เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อกาวน์ของคนไข้ก่อนเข้าเครื่องตรวจ
- ถอดฟันปลอม เครื่องประดับ แว่นตา นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม กระเป๋าสตางค์ ฝากญาติไว้
- ที่ห้อง Cath. Lab. พยาบาลจะใส่สายน้ำเกลือและติดขั้วสื่อไฟฟ้าที่หน้าอกและขา
- แพทย์จะฉีดยาชาให้บริเวณที่จะแทงเข็มและสอดสายสวน
การปฏิบัติตัวหลังการตรวจ
พยาบาลจะพาผู้ป่วยกลับตึกนอนเพื่อสังเกตภาวะแทรกซ้อนหลังทำหัตถการเสี่ยง หากมีอาการชา เย็น ซีด หรือมีเลือดซึมตรงตำแหน่งที่สอดสายต้องรีบแจ้งพยาบาลทันที ถ้าใส่สายสวนที่แขน ห้ามงอข้อมือและข้อศอก 24 ชั่วโมง ถ้าใส่ที่ขาหนีบ ห้ามงอเข่าประมาณ 6 ชั่วโมง ถ้าไม่มีอาการผิดปกติภายใน 8 ชั่วโมง ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้
ที่บ้าน ควรพักผ่อนอยู่แต่ในบ้านประมาณ 24 ชั่วโมง ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อกำจัดสารทึบรังสีออกไป รับประทานอาหารตามปกติ รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง (แพทย์อาจให้หยุดยาต้านการแข็งตัวของเลือดต่อไปอีก 2-3 วัน) หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงดึง ผลัก ดัน หรือยกของหนัก รวมถึงการนั่งคุกเข่า (กรณีทำที่ขาหนีบ) สังเกตภาวะแทรกซ้อนอีก 2-3 เรื่องที่อาจเกิดขึ้น คือการติดเชื้อ (มีไข้ บวม แดง กดเจ็บตรงตำแหน่งที่สอดสาย), การมีลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดสมอง ทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต (พบเพียง 0.2%), และภาวะหัวใจขาดเลือดจากการที่เส้นเลือดโคโรนารีอุดตันซ้ำ (แน่นอก ใจหวิว เหนื่อย) หากมีอย่างใดอย่างหนึ่งต้องรีบกลับไปพบแพทย์
บรรณานุกรม
- "ACC/AHA Guidelines for Coronary Angiography: Executive Summary and Recommendations." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา ACC/AHA Practice Guidelines. (5 ธันวาคม 2563).
- อ.นพ.ภาณุเมศ ศรีสว่าง. "การตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ (Coronary angiography)." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (5 ธันวาคม 2563).
- "Coronary angiogram." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Mayo Clinic. (5 ธันวาคม 2563).
- "Cardiac Catheterization & Coronary Angioplasty and Stent (Interventional Procedures)." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Cleveland Clinic. (5 ธันวาคม 2563).
- C. Michael Gibson. "Coronary angiography contraindications." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Wikidoc. (5 ธันวาคม 2563).
- Jae-Hwan Lee. "Interpretation of Coronary Angiogram." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Chungnam National University, Korea. (5 ธันวาคม 2563).
- David Shavelle. "Basic
Coronary
Angiography." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Univ Southern California. (5 ธันวาคม 2563).
- Abhijoy Chakladar, et al. 2017. "Coronary Artery Angiography." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา wfsahq.org. (5 ธันวาคม 2563).
- G Karthikeyan. "Reading a coronary angiogram." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา India Institute of Medical Sciences, India. (5 ธันวาคม 2563).
- Robert A Kubicka and Claire Smith. "How to interpret coronary arteriograms." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา The Radiological Society of North America. (5 ธันวาคม 2563).